เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 อาจารย์เข้ม มฤคพิทักษ์ ผู้ดูแลเทวาลัยเทพตะเคียนทองเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนถนนสายเชียงใหม่-สันกำแพง เลยห้างพรอเมนาด้าไป 1 กม.อยู่ซ้ายมือ อาจารย์เข้ม ได้ต้อนรับนายกรณัชพัฒน์ ธนาธารทิพย์ นักธุรกิจค้าขายไม้ ที่ได้มอบพระพิฆเณศวร แกะสลักด้วยไม้สักให้อาจารย์เข้ม นำมาประดิษฐานไว้ที่เทวาลัยเทพตะเคียนทองแห่งนี้
นายกรณัชพัฒน์ ธนาธารทิพย์ บอกว่า จากที่เป็นนักธุรกิจค้าไม้ ได้เดินทางไปซื้อไม้หลายจังหวัดเมื่อประมาณ 5 ปีก่อนได้พบพระพิฆเนศวรไม้สักอยู่ในโรงเก็บไม้ที่ตนเดินทางไปซื้อ เห็นว่าสถานที่นั้นไม่เหมาะสมที่จะเก็บพระพิฆเนศวร ตนเลยขอซื้อกับเจ้าของเดิมในราคา 3 แสนบาท ต่อมานำไปเก็บไว้ที่บ้านกรุงเทพฯ เป็นเวลา 5 ปี ตนกินไม่ได้นอนไม่หลับมาตลอด พอจะหลับตาก็มีภาพพระพิฆเณศวรองค์ท่านลอยมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้งมาก ล่าสุดเมื่อหลายวันก่อนตนเลยอัญเชิญพระพิฆเนศวรไม้สักออกมาจากบ้านที่กรุงเทพ ก็ยังไม่รู้ว่าจะเอาไปประดิษฐานไว้ที่ไหน ขับรถมุ่งหน้ามาเชียงใหม่ ระหว่างทางนึกขึ้นได้ว่ามีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คือสถานที่เทวาลัยเทพตะเคียน ตนเลยประสานงานกับอาจารย์เข้ม เพื่อขอนำองค์พระพิฆเนศวรมาประดิษฐานไว้ที่นี้ อาจารย์เข้ม อนุญาตทันที จึงนำมาประดิษฐานไว้เมื่อหลายวันก่อน ตั้งแต่นั้นมา ตนก็รู้สึกว่านอนอุ่นกินอิ่ม อาจจะเป็นเพราะสถานที่แห่งนี้เหมาะสมและเป็นมงคล ตนตั้งใจมอบให้อาจารย์เข้มฟรีๆ ประกอบกับสถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์ร่วมสิ่งมงคลอยู่แล้ว และเปิดให้ประชาชนเดินทางเข้ามากราบไหว้ฟรีอีกด้วย ถือว่าร่วมด้วยช่วยกันสร้างสถานที่มงคลให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามากราบไว้สิ่งมงคลเพื่อเป็นสิริมงคลกับทุกๆคนด้วย
อาจารย์เข้ม มฤคพิทักษ์ ผู้ดูแลเทวาลัยเทพตะเคียนทองเชียงใหม่ กล่าวว่า พระพิฆเนศวรไม้สักดังกล่าว มีความสูง 2.40 เมตร หรือสองเมตรสี่สิบเซ็นติเมตร รวมทั้งลูกแก้วสีเหลืองที่จะนำมาติดปลายยอด เพราะผู้มามอบให้นั้นเกิดวันจันทร์ จะอัญเชิญไว้ใต้พระญาช้างเอราวัณให้อยู่ในระดับเดียวกันคือชั้นบนต่อไป
สถานที่เทวาลัยเทพตะเคียน ได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา เป็นมหาฤกษ์อภิมงคลที่เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ในช่วงประกอบพิธีมงคลได้นำรถเครน 100 ตัน ทำการยกองค์เทพสององค์ คือ องค์ท้าวมหาพรหมสูงจากพื้นรวม 14 เมตร พระญาช้างเอราวัณสูงจากพื้นรวมรวม 14 เมตร (ยังไม่รวมความสูงของพระอินทร์ที่จะประทับบนหลังพญาช้างฯ) ซึ่งพญาช้างเอราวัณ มีพระอินทร์ประทับอยู่บ้านหลังช้าง ขนาดความยาว 10.5 เมตร และความกว้าง 8 เมตร เป็นช้างสามเศียร ผิวหนังแกะสลักเป็นหนังช้างทั้งหมด น้ำหนักประมาณ 75,00 กิโลกรัม หรือประมาณ 60 ตัน เป็นสองปฏิมากรรมแกะสลักโคตรไม้ตะเคียนทองชิ้นเอกมีแห่งเดียวในโลก
ที่นี้วันนี้ถือว่าเป็น Art Studio ใต้ฐานพญาช้างเอราวัน ที่เทวาลัยเทพตะเคียนทองเชียงใหม่ ทีมศิลปินของร้อยทวารบาล บ้านเทวาลัย กำลังลงสีรองพื้น ทั้งสองด้านของชิ้นงานแกะสลักภาพประวัติศาสตร์ ตอนสำคัญ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเมื่อปี พศ.2135 (คือเมื่อ 428 ปีที่แล้ว) พระนเรศวร ทรงทำยุทธหัตถีกับ พระมหาอุปราชาที่นำทัพพม่าบุกเข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์
จะมีวัสดุคือไม้สักทองขนาด 3.5 เมตร คูณ 2.5 เมตร หนา 1 ฟุต แกะสลักทั้งสองด้าน จะต้องมีเทคนิคการแกะสลักที่เก่งโดยผสมผสาน นูนต่ำ นูนสูง ลอยตัว ปิดงานด้วยการเขียนสีลงทองคำ เงิน อีกด้านหนึ่งแกะสลักนูนต่ำพระนเรศวรกับพระเอกาทศรถ นำทัพทหารไทยเดินลัดทุ่งบุกป่าข้ามเขาไปรบกับ กองทัพพม่า
อีกด้านหนึ่งแกะสลักนูนสูงผสมกับลอยตัว เป็นฉากยุทธหัตถี ณ สมรภูมิรบอำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ผลงานรังสรรค์โดย ทีมงานช่างแกะสลักและทีมศิลปินเขียนภาพฝีมือขั้นเทพจาก ร้อยทวารบาล บ้านเทวาลัย เชียงใหม่ ซึ่งเจ้าของชิ้นงานคือนายแพทย์สหเทพ สว่างเนตร แพทย์ออร์โธปิดิคส์ จังหวัดกาญจนบุรี สำหรับงานศิลปปฏิมากรรมแกะสลักไม้แล้วช่างที่เป็นสุดยอดฝีมืออันดับหนึ่งของประเทศไทยคือทีมช่างของร้อยทวารบาล บ้านเทวาลัย เชียงใหม่ ที่มีอยู่ 24 คนเท่านั้น เราจัดหาไม้และรับแกะสลักงานไม้ตั้งแต่ขนาดเท่าฝ่ามือจนถึงขนาดเท่ากับตึกห้าชั้น ซึ่งเทวาลัยเทพตะเคียนทองเชียงใหม่แห่งนี้ อยู่ริมถนนสายเชียงใหม่-สันกำแพง เลยห้างพรอมเมนาด้าไป 1 กม. ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายมือ เปิดให้เข้าเยี่ยมชมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งได้เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 9:00-17:00 น.ของทุกวันเข้าชมฟรี.