เทศบาลเมืองแพร่ เตรียมจัดการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นคนใหม่ตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ ในวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. โดยจะเปิดรับสมัครผู้ที่ประสงค์สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ในวันที่ 3 – 7 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ ลานจอดรถเทศบาลเมืองแพร่ โดยไม่เว้นวันหยุดราชการโดยการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองแพร่คนใหม่
สืบเนื่องจากกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งให้นายโชคชัย พนมขวัญ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ยุติการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากที่มีหนังสือคำสั่งด่วน ลงวันที่ 10 มกราคม 2565 เรื่อง ให้นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ยุติการปฏิบัติหน้าที่ โดยกระทรวงมหาดไทยได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 ในกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นว่า นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี ประธานสภาเทศบาล หรือรองประธานสภาเทศบาล ปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติ ในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ศรีและตำแหน่ง หรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ให้เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพร้อมด้วยหลักฐาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอาจใช้ดุลพินิจ สั่งให้นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี ประธานสภาเทศบาล หรือรองประธานสภาเทศบาลพ้นจาก ตำแหน่งก็ได้
ดังนั้น กระทรวงมหาดไทยจึงได้พิจารณาและมีคำสั่งให้นายกเทศมนตรีเมืองแพร่พ้นจากตำแหน่งทันทีหลังจากที่ได้รับคำสั่ง และคำสั่งของรัฐมนตรีมหาดไทยให้เป็นที่สิ้นสุด โดยให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน
การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว มีผู้สมัคร คือนายโชคชัย พนมขวัญ นายนพดล วังใน นายบุญทองปัญญาสว่างจิตร ผลออกมาคือนายโชคชัยนำโด่งรับเลือกตั้งเข้าไปอีก แต่อยู่มาไม่นาน มหาดไทยก็ลงนามสั่งให้ออกจากหน้าที่นายกเทศมนตรี ดังนั้นก็จึงมีการทำการเลือกตั้งใหม่ แต่ นายโชคชัยไม่มีสิทธิ์ในการที่จะลงสมัคร
คราวนี้มาดูว่า ผู้สมัคร คราวนี้ จะมีใครบ้าง คนเดิมที่ลงสมัครมี 2 คนคือ นายนพดล และนายบุญทอง แต่ก็ไม่ได้รับเลือกทั้งคู่ คอการเมืองทั้งหลายในเมืองแพร่ ก็วิเคราะห์กันไปตามประสาคอการเมือง แต่ได้ข่าวว่านายบุญทอง บาย ไม่ลงอีก คราวนี้ก็เหลือนายนพดล รายนี้น่าจะยังคงลงมาเล่นอีกเพราะคราวที่แล้วได้คะแนนมาเป็นอันดับสอง
แต่คนในเขตเทศบาล บอกว่า ถ้าลงคนเดียวมันไม่สนุก หลายคนมองไปที่นายสุริยา อินต๊ะนอน จะหันมาเล่นเองคราวนี้ ส่วนตามชุมชนต่างๆ ก็เริ่มขยับ อ้อนท่านวรวัจน์ ขอให้ส่งคุณพรรณี แสฃสันต์ มาลงสมัครเพื่อเป็นตัวเลือกอีกทาง ซึ่งท่านวรวัจน์ก็บอกชาวชุมชนไปว่า อันนี้ต้องแล้วแต่เจ้าตัวเขาจะเอาหรือเปล่า
พี่น้องชุมชนหลายคนสาธยายสรรพคุณกันมากมาย ตอนหนึ่งเขาบอกว่า สมัยก่อนท่านวรวัจน์เป็นนายกเทศมนตรี จังหวัดแพร่ มีชื่อเสียง คึกคัก สนุกสนาน การอาชีพไหลรื่น รายได้ไม่ตก ที่สำคัญงานประเพณีต่างๆที่จัดยิ่งใหญ่มาก เทียบชั้นกับจังหวัดใหญ่ๆได้ แต่มาหลังๆอะไรก็เปลี่ยนไป จึงอยากได้บรรยากาศเก่าๆกลับมาอีก
แต่บางคนฟันธง ว่า หากคุณพรรณีเอาด้วย จะทำให้เทศบาลเมืองแพร่เฟื่องฟู เพราะคุณพรรณณีคล่ำหวอดอยู่กับการจัดสรรงบประมาณ หากเป็นจริง ก็เท่ากับว่า คนเทศบาลจะได้สองต่อ และคนที่จะผลักดันงบประมาณต่างๆมาได้คือท่านวรวัจน์นั่นเอง
นี่คือการวิเคราะห์เบาๆจากเสียงคนในเขตเทศบาลเท่านั้น เรายังไม่รู้ว่า จะมีใครอาสามาลงสมัครให้คนเทศบาลได้เลือกกันบ้าง ไม่แน่ อาจจะมีหลายคน หรือ อาจจะมีคนเดียวก็เป็นได้ มาติดตามกันต่อไปในคราวหน้า