เจ้าของธุรกิจโรงโม่หิน ข้องใจศูนย์ดำรงธรรมสงขลา ทำหน้าที่ถูกต้องหรือไม่

นายเฉลิมชัย ครุอำโพธิ์ เจ้าของธุรกิจโรงโม่หินบริษัทเขาบันไดนางศิลา จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า บริษัทตั้งโรงโม่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมเพื่อมิให้มีผลกระทบกับชุมชน ทำตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม และอุตสาหกรรมทั้งหมด ทำการวัดค่าฝุ่นปีละ 2 ครั้ง มีการตรวจสุขภาพพนักงาน มีการดูแลชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง มีการเสนอให้อุตสาหกรรมจังหวัดติดตั้งเครื่องมือเพื่อตรวจวัดฝุ่นปีละ 4 ครั้ง

สำหรับกายภาพของพื้นที่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงโม่หินนั้น พื้นที่เป็นแอ่งกะทะ ต่ำกว่าระดับถนนสายเอเชีย ห่างจากถนนสายดังกล่าว 300 เมตร ต่ำกว่าที่อยู่อาศัยของประชาชนและผู้ประกอบการรายอื่นๆ มีการปลูกต้นไม้รอบบริเวณโรงงานเพื่อป้องกันฝุ่น มีการควบคุมค่าของฝุ่นด้ฝุ่นด้วยการฉีดน้ำ มีการสร้างแอ่งน้ำรอบๆโรงงาน มีการฉีดน้ำทางเข้าโรงงานและภายในโรงงานทุกชั่วโมง
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อไปว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผ.อ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.สงขลา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานสิ่งแวดล้อมฯ อุตสาหกรรมจังหวัด สาธารณะสุข และฝ่ายปกครอง อ.บางกล่ำ ฯลฯ.ได้เข้ามาที่โรงงาน เพื่อตรวจสอบว่าโรงงานมีการป้องกันและทำตามกฎข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจของการจัดตั้งโรงโม่หินหรือไม่ ซึ่งสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเป็นเพราะ ศูนย์ดำรงธรรม ได้รับการร้องเรียนทางอีเมลว่าได้รับความเดือดร้อนจากฝุ่นของโรงโม่ ซึ่งผู้ร้องไม่ได้แจ้งว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน ที่สำคัญผลจากการตรวจสอบโรงงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมโรงโม่หินในครั้งนี้ ไม่พบปัญหาตามที่ การร้องเรียน โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติม ให้โรงงานเพิ่มความเข้ม ในการป้องกันฝุ่นละอองให้มากขึ้น ซึ่งสิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแนะนำ โรงงานได้ทำอยู่แล้วทั้งหมด

แต่..หลังจากนั้น ปรากฎข่าวในสื่อท้องถิ่นแห่งหนึ่งว่า “สุดทนชาวบ้านร้อง ได้รับความเดือดร้อนจากฝุ่น ฯลฯ” โดยมีการลงภาพ ข่าว มีที่มาจากศูนย์ดำรงธรรม จ.สงขลา ซึ่งไม่เป็นความจริง ซึ่งอาจจะสร้างความเข้าใจผิดกับผู้เสพสื่อว่า โรงงานสร้างความเดือดร้อนให้ชุมชน ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ไม่มีธรรมภิบาล เป็นการสร้างความเสียหายให้กับโรงงาน ประเด็นนี้โรง ตนเห็นว่า การกระทำของศูนย์ดำรงธรรมไม่ถูกต้อง ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับตนเอง ทำให้สังคมเข้าใจผิดและเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงต้องการให้ศูนย์ดำรงธรรมรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนเห็นว่าเมื่อผลการตรวจสอบไม่พบว่าโรงงานทำผิด ศูนย์ดำรงดำรงธรรมมีหน้าที่ชี้แจงกับผู้ร้องเรียนให้ทราบถึงผลของการตรวจสอบ และหากศูนย์ดำรงธรรมประสงค์จะให้ข่าวสื่อมวลชน ก็ต้องให้ข่าวการตรวจสอบโรงงานว่าไม่ได้เป็นสาเหตุของฝุ่นอย่างที่มีการร้องเรียน ไม่ใช่นำเรื่องที่มีการร้องเรียนที่เหมือนบัตรสนเท่มาลงข่าว ซึ่งน่าจะไม่ถูกต้อง และไม่ใช่หน้าที่ของศูนย์ดำรงธรรม
ต่อมาผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยัง ร้านหาดใหญ่ยางยนต์ ที่อยู่ยังถนนเข้าโรงโม่หินแห่งนี้ เพื่อสอบถามว่า ได้รับผลกระทบจากฝุ่นที่เกิดจากโรงโม่หินแห่งนี้หรือไม่ ซึ่งนายพงษ์เทพ แก้วเจริญ เจ้าของร้านกล่าว่า ไม่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นที่มาจากโรงโม่หิน มีเพียงฝุ่นเพียงเล็กน้อย ที่เป็นธรรมชาติของร้านที่ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่

ภาพ/ข่าว.นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา