เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 เวลา 14.30 ต่อเนื่องถึง 20.45 น. ภายใต้การอำนวยการของ , พ.ต.อ.ภูมิชาย พันธ์กล้า ผกก.ตชด.32 ,พ.ต.ท.พิเชษฐ์ หมายดี ผบ.ร้อย ตชด.324 , เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกำลังหลักโดย ร.ต.อ.อดุลย์ ใชยา รอง ผบ. ร้อย ตชด.324 ,ร.ต.ต.ต.กูวัฒน์ อุตรหม , ด.ต.กฤษดา ขัดเขียว ,ด.ต.บรรพจน์ ก้อฟู , จ.ส.ต.ฤษณะปาคำ ,ส.ต.อ.นันทพงษ์ คำเรือง ,ส.ต.อ.ณฐวรด สิงห์ทอง , ส.ต.ท.ธีรพงษ์ สันป่าเป้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ร้อย ตชด.324 (ชป.คร.) พร้อมด้วย
ร.ต.อ.อัครวิน ทองเชื้อ รอง สว.กก.4 บก.ปท ,ส.ต.อ.ขจรกฤษณ์ จันเต็บ รอง สว.กก.4 บก.ปทส.เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส.จ.แพร่ , เจ้าหน้าที่ฝ้ายปกครองจังหวัดแพร่ , เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.5 (ห้วยแก๊ต)
ได้ร่วมกันจับกุมนายลักลอบ(นามสมมุติสงวน) อายุ 45 ปี หมู่ 7 ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง จ.แพร่ พร้อมด้วยของกลาง 1.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีดำ ทะเบียน บพ 666 แพร่ จำนวน 1 คัน 2. ไม้ชิงชันแปรรูป จำนวน 3 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.091 ลบ.ม. คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 27,300 บาท 3.ไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 9 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.284 ลบ.ม. คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 19,880 บาท จับกุมได้ที่บนถนนทางหลวงหมายเลข 101 ยันตรกิจโกศล ระหว่างหลัก กม.ที่ 303-302 ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง จ.แพร่
หลังจากที่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ สืบทราบว่าในวันที่ 23 พ.ย. 2567 จะมีบุคคลใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ลักลอบขนไม้ผิดกฎหมายจากจังหวัดน่าน ปลายทางจังหวัดแพร่ โดยรถยนต์คันดังกล่าวจะใช้กระสอบขี้เลื่อยทำการปกคลุมอำพรางเพื่อความสะดวกในการขนย้ายโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและกระทำมาแล้วหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และสั่งการให้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบเป็นความผิดให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตาม
กฎหมายแล้วรายงานผลการปฏิบัติให้ทราบนั้นต่อมา เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายตามอำนาจหน้าที่ ออกตรวจลาดตระเวนไปตามถนเส้นทางหลวง 101 สาย แพร่-น่าน และเจ้าหน้าที่บางส่วนได้ทำการจอดรถยนต์อยู่บริเวณศาลเจ้าพ่อเขาครึ่งเขตติดต่อระหว่างจังหวัดน่านกับจังหวัดแพร่ เพื่อสังเกตการณ์ ต่อมาได้มีรถยนต์กระบะคันตามที่ได้รับแจ้ง ได้ขับผ่านไปจนท.จึงได้ขับรถยนต์ติดตามและประสานให้ จนท.อยู่ด้านหน้าสกัดรถยนต์คันดังกล่าว ที่บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านบ่อหอย-ภักดีธรรม จากนั้น จนท.ได้ส่งสัญญาณให้ผู้ขับขี่รถยนต์หยุดเพื่อทำการตรวจสอบ เมื่อหยุดรถยนต์คันดังกล่าวแล้วจึงได้เข้าตรวจสอบผู้ขับขี่รถยนต์พบของกลาง และได้สอบถามนายลักลอบ(นามสมมุติ)ได้ให้การว่าสิ่งของที่บรรทุกอยู่ในกระบะคือกระสอบขี้เลื่อยและกำลังจะนำกลับบ้าน จนท.จึงได้ให้นายลักลอบ(นามสมมุติ) เปิดฝาท้ายกระบะรถยนต์คันดังกล่าวพบว่า ที่บริเวณล่างของกระสอบ ทับอยู่นั้นมีการใช้พลาสติกสีดำปกคลุมบางอย่างอยู่ จนท.จึงได้ให้นายลักลอบ(นามสมมุติ)เปิดออก พบว่าเป็นไม้แปรรูป จำนวน 3 แผ่น/เหลี่ยม เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามนายลักลอบ(นามสมมุติ) ไม้อะไรและจะนำไปที่ใด นายลักลอบ (นามสมมุติ) ให้การในขณะตรวจพบว่า ไม้แปรรูปดังกล่าว ตนเองได้ซื้อมาจากในเขตพื้นที่ อ.ภูเพียง จ.น่าน และจะนำไปทำเฟอร์นิเจอร์เพื่อใช้ประโยชน์ เจ้าหน้าที่เห็นว่าไม้แปรรูปดังกล่าวเป็นไม้ที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า จึงได้เชิญให้นายลักลอบ(นามสมมุติ) ขับรถยนต์พร้อมไม้แปรรูปไปยัง สถานีตำรวจภูธรไผ่โทน เพื่อทำการตรวจสอบ ขณะขับรถรถยนต์ของกลางไปที่ สภ.ไผ่โทน นายลักลอบ(นามสมมุติ) ยังได้ให้การว่า ไม้ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบนั้นตนเองจะนำไปทำเฟอร์นิเจอร์และตนยังมีไม้ของกลางที่นำมาจากจังหวัดน่านและตนเองได้นำไปเก็บไว้ที่บ้านพัก ที่หมู่บ้านห้วยเอียด อีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพักของนายลักลอบ(นามสมมุติ)พบไม้แปรรูปที่ตนเองกล่าวถึง โดยนายลักลอบ(นามสมมุติ) เมื่อถึงบ้านพักที่ ม.7 ต.ไผโทน อ.ร้องกวาง จ.แพร่ เจ้าหน้าที่ได้ให้นายลักลอบ(นามสมมุติ) นำชี้ไม้แปรรูปที่ตนเองกล่าวถึงพบไม้แปรรูปถูกปกคลุมด้วยผ้าสีดำ ถูกวางกองรวมกันอยู่บริเวณใต้บันไดบ้านพบว่าเป็นชนิดไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 9 แผ่น/เหลี่ยม ถูกแปรรูปด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ สังเกตได้จากที่หน้าตัดของไม้ทั้งสี่ด้านมีร่องรอยของเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ติดอยู่ ลักษณะใหม่ สด ไม่เคยผ่านการเป็นเครื่องเรือน เครื่องใช้ หรือสิ่งปลูกสร้างแต่อย่างใด ไม่พบรูปรอยดวงตราของเจ้าหนักงานเจ้าหน้าที่ตีประทับไว้เพื่อเป็นการแสดงการอนุญาตแต่อย่างใด จากการสอบถามนายลักลอบ(นามสมมุติ) ทราบว่าไม้แปรรูปดังกล่าวตนเองได้ทำการซื้อไม้ประดู่แปรจากชาวบ้านในเขต อ.ภูเพียง จ.น่าน และไม้ดังกล่าวไม่มีเอกสารการได้มาแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่เห็นว่าไม้ประดู่แปรรูปดังกล่าวอาจเป็นไม้ที่ได้มาโดยผิดกฎหมายจึงได้ทำการตรวจยึดเป็นของกลาง จนท.ชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวนายลักลอบ (นามสมมุติ) พร้อมด้วยของกลางที่ตรวจพบทั้งหมด นำส่ง ร.ต.อ.เพชรสยาม วันละ พงส.สภ.ไผ่โทน จ.แพร่ โดยแจ้งกล่าวหาว่า กระทำความผิด ฐาน
1. มีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
2. รับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้หรือของป่าซึ่งตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ใดได้มาโดยการกระทำความผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
น่าน – ชุดเฉพาะกิจ ตชด.สนธิกำลัง รวบหนุ่มใหญ่ 45 ปี ลักลอบขนไม้ชิงชันปิดอำพรางไม่รอด
ข่าวเด่น
24/11/2024