เหตุเงินกู้ดอกโหดรายนี่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.00น.วันที่28 พ.ค.67ขณะที่ พ.ต.ต.ชาติสยาม แจ่มรัตนโสภิณ สว.สอบสวน สภ.สูงเม่น จ.แพร่ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานประจำวันสภ.สูงเม่นได้มี
น.ส.เอ อายุ 32 ปี ชาว ต.สบสาย อ.สูงเม่น จ.แพร่ ได้กระหีดกระหอบ
มาพบพนักงานสอบสวนพร้อมหอบหลักฐานต่างๆมาจำนวนหลายชิ้นเช่นหนังสือสัญญากู้และภาพตัวเองพร้อมภาพบัตรประชาชนที่ถูกนำไปโพสลงในเฟสบุ๊กประจาน
โดยน.ส.อ เอให้การกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการกู้เงินดอกโหดว่าเมื่อวันที่ 30 มี.67 ตนเองได้กู้เงินรายวันกับ นอร่วมกับเพื่อนคือ.นส.บี จำนวน
คนละ3,000 บาท โดยคิดดอกเบี้ยวันละ 150 บาท โดยตนเองได้ลงชื่อในสมุดสัญญาเงินกู้
และตั้งแต่ตนได้กู้เงินจาก น.สอา ก็จ่ายเงินมาทุกวันโดยเงินเข้าบัญชีของ น.ส.อา เลขบัญชี
ธนาคารกรุงไทย จนถึงวันที่ 26 พ.ค.67ตนเองไม่ได้จ่ายดอกเบี้ย ผู้ให้กู้ก็ทวงเงินตนเองไม่มีจ่ายก็ด่าและข่มขู่สารพัดแถมยังบอกว่าสามีเขาเป็น อส อยู่สูงเม่นด้วย ตนก็เกิดความกลัวจะเป็นอันตรายต่อชีวิต
จึงมากล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน
ให้ดำเนินคดีกับผู้ปล่อยกู้ให้ได้รับโทษตามกฎหมายที่ปล่อยเงินกู้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
และข่มขู่ทวงหนี้ผู้แจ้ง เอารูปภาพตนเองไปลงประจาน
เหตุเกิดที่ ปั๊ม ปตท.น้ำชำ ม.2 ต.น้ำชำ อ.ลุงเม่น จ.แพร่ ระหว่าง วันที่ 30 มี.ค.67 ถึง วันที่ 6 พ.ค 67
ต่อมาตนก็ได้หาเงินมาใช้ให้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยร่วม8000บาทจากเงินที่กู้3000บาท จากนั้นตนก็ขอกู้อีก3000บาทตอนนี้เขาให้ส่งเฉพาะดอกเบี้ยวันละ300บาท ก็เท่ากับว่าดอกเบี่ยรายวันร้อยละ30บาท ส่งไปแล้ว9000บาทแต่เขาก็ทวงมาอีกทุกวันตนก็จะขอปิดบัญชีเขาบอกว่าจ่ายเงินต้น3000บาทและดอกเบี้ยอีก450บาท ตนเห็นว่ามันโหดเกินจึงเข้าแจ้งความดังกล่าว
ทางด้านพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความแล้วจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ทางด้านพ.ต.อ.พงษ์พีระ การะเกตุ ผกก.สภสูงเม่น ได้สั่งการให้พนักสอบสวนว่าให้เร่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนเนื่องจากเป็นนโยบายของ รัฐบาล ซึ่งต้องเร่งปราบเงินกู้นอกระบบ