เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง และอุทยานแห่งชาติแม่โถ สกัดจับรถยนต์ บนทางหลวงหมายเลข 108 ถนนเชียงใหม่-แม่สะเรียง บริเวณปากทางสามแยก อำเภอแม่แจ่ม เขตอุทยานแห่งชาติออบหลวง ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ใช้ปืนยิงล้อยางรถยนต์วีโก้ สีขาวหมายเลขทะเบียน ผษ 5465 เชียงใหม่ ด้านหลังเป็นตู้ทึบห้องเย็น ดัดแปลงนำมาขนไม้เถื่อน หลังจากคนขับรถคันดังกล่าวพยายามขับหลบหนีการจับกุมเจ้าหน้าที่มุ่งหน้ามาทางตัวอำเภอฮอด
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ได้รับคำสั่งจากนายศุภฤกษ์ เลิศลักษณ์ศิริกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติออบหลวง ได้ให้เจ้าหน้าที่ออกหาข่าวกลุ่มขบวนการค้าไม้เถื่อนที่มักใช้เส้นทางผ่านอุทยานแห่งชาติออบหลวง ในการลำเลียงไม้เถื่อนและทราบว่ามีการนำรถบรรทุกขนของมาดัดแปลงเพื่อใช้ในการขนไม้เถื่อน จึงได้มีการเฝ้าติดตามรถยนต์เป้าหมายตามที่สายข่าวรายงานมา จึงได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่โถ เฝ้าจับตารถเป้าหมาย พบว่ามีรถขนไม้เถื่อนมาถ่ายไม้เถื่อนขึ้นรถกระบะตู้แช่ ที่บ้านหล่งปง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เพื่อจะนำไม้เถื่อนททั้งหมดไปส่งให้กับลูกค้าพื้นที่ ต่างจังหวัด เมื่อรถยนต์เป้าหมายได้แล่นมาถึงจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าจับกุม แต่คนขับรถยนต์คันดังกล่าวได้พยายามขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงใส่ยางรถยนต์เพื่อสกัดให้หยุดอยู่กับที่
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นรถคันดังกล่าวพบไม้ประดู่แผ่นขนาดใหญ่รวมทั้งหมด 12 แผ่นซุกซ่อนอยู่ในตู้แช่แข็ง จึงได้นำตัวคนขับมาสอบสวนทราบชื่อนายเอ ( นามสสมุติ) เป็นชาวบ้าน ต.นาเกียน อ.อมก๋อย ให้การรับสารภาพว่ารับจ้างขนไม้เถื่อนล็อตดังกล่าวเป็นเงิน 1500 บาท ซึ่งมีรถนำไม้ล็อตดังกล่าวมาส่งที่บ้านหล่งปง อ.แม่แจ่ม และจะขับรถขนไม้ทั้งหมดผ่าน อ.ฮอด ไปส่งให้ชายอีกคนเพื่อนำไปซุกซ่อนในสวนลำไย พื้นที่ ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง แต่ก็ม ถูกเจ้าหน้าที่จับเสียก่อน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฮอด ดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปทส.ตร.) นำโดย ร.ต.อ.จิรายุ อิ่นแก้ว รอง สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปทส., ด.ต.คมชาญ เหรียญทอง, ด.ต.ชิษณุพงศ์ ประวัง, ด.ต.ชินโชติ สุขนิมิตร และ ด.ต.วิชิตพงศ์ ธิมาเกตุ ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปทส.
ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าฯ ตำรวจภูธร ภาค 5 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้เชียงใหม่ 3 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ชม.20 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอฮอด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่มและป่าแม่ตื่นและป่าขุนแม่ลาย ท้องที่ บานกิ่วลม-อมก๋อย ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ขณะนั้นเจ้าหน้าที่เห็น กลุ่มควันไฟพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะกระจายกำลัง ตรวจค้นพบพื้นที่ป่าถูกเผา และผู้ชายกำลังขับรถแบคโฮลกำลังตักดินปรับพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปสอบถามนายณัฐ ( นามสมมุติ )อายุ 31 ปี ชาวบ้าน ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ให้การว่า ตนเป็นคนงานลูกจ้างของนายยศ (นามสสมมุติ) ซึ่งได้จ้างให้ไปขุดสระกักเก็บน้ำและปรับแต่งลำห้วยบริเวณดังกล่าวเพื่อเตรีมดินในการทำไร่เลื่อนลอย
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่มและป่าแม่ตื่นและป่าขุนแม่ลาย พบพื้นที่ดังกล่าวถูกบุกรุก 2 แปลง เนื้อที่รวม 1 งาน 51 ตารางวา ก่อนจะยึดของกลางรถแบ็คโฮ 1 คันพร้อมนำตัวนายณัฐฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อหลวงดำเนินคดี พร้อมแจ้งข้อหานายยศ (นามสมมุติ) เจ้าของรถแบคโฮล และผู้ว่าจ้าง ร่วมกัน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต.
นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่