รวบแล้วหนุ่มคลั่ง บุกทุบทำลายร้านสะดวกซื้อกลางดึก กระจกแตก ก่อนเช้าไปทุบทำลายข้าวของแล้วหยิบเอาบุหรี่ ไฟแช็ค ไอติม ใส่กระเป่าขึ้น รถจยย.หลบหนี ไปกบด้านบ้านพักกลางสวนปาล์ม

จากเหตุคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี สวมเสื้อแจ็คเกตแขนยาว สีดำ กางเกงยีนส์ขายาว สะพายกระเป๋าเป้สีดำ เดินเข้ามาที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ในพื้นที่บ้านเขากลม ม.7 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร้านปิดให้บริการ ตามประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อฯ ช่วงการแพร่ระบาดโควิด19 จากนั้นเอาเก้าอี้ไม้ฟาดที่กระจกประตูร้านจนแตกไป 2 บาน แล้วเดินเข้าไปภายในร้านทุบทำลายทรัพย์สินเสียหาย อาทิ จอเครื่องคิดเงิน 3 จอ เครื่องสแกนบัตร โทรศัพท์มือถือ ตู้ไอศครีม ก่อนหยิบเอาไฟเช็ค 100 อัน บุหรี่ และไอศกรีมอีกจำนวนหนึ่งใส่กระเป๋าย่ามหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 00.30 น วันที่ 8 พ.ค.64 ที่ผ่านมา สร้างความตื่นตระหนกแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ซึ่งเบื้องต้น จนท.ตำรวจ รู้ตัวคนร้ายรายนี้แล้ว จากภาพวงจรปิดภายในร้านที่ก่อเหตุ รวมทั้งภาพที่พลเมืองดีบันทึกไว้ได้ ทราบชื่อ คือนายอุดม หรือยู่โสบ บุตรหลี อายุ 40 ปี เบื้องต้นคาดว่าเสพยาแล้วมีอาการคลุ้มคลั่งก่อเหตุดังกล่าว จนท.อยู่ระหว่างติดตามตัว

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา ประมาณ 16.00 วันที่ 9 พ.ค.64 นายสุมิตร รักโอ่ กำนันตำบลหนองทะเล พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความสงบ ม.4 ม.6 และม.7 ต.หนองทะเลพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.อ่าวนาง และชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้เดินทางไปที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ภายในสวนปาล์มน้ำมัน ม.6 บานดินแดง ต.หนองทะเล ห่างจากร้านสะดวกซื้อจุดเดเหตุประมาณ 5 กม หลังสืบทราบว่า นายอุดม หลบหนีมาอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งด้านหน้าเป็นบ้านไม้ยกสูงกั้นไม้ไผ่สาน ด้านหลังยกระดับพื้น สภาพเก่า เมื่อ จนท.และชาวบ้าน เข้าปิดล้อมนายอุดม ก็แสดงความไม่พอใจส่งเสียงตะโกนโวยวาย ตลอดเวลา จนท.ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจาก คนร้ายมีอาวุธเป็นมีมีดตัดผลปาล์ม จนท.ตำรวจจึงอาศัยจังหวะคนร้ายเผลอ ใช้ปืนไฟฟ้าช็อตจอ่อนแรง ก่อนบุกเข้าไปชาร์ตตัวภายในบ้านโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงนำตัวส่งเจ้าพนักงานสอบวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.ต.อ.อภิชาติ จินาเพ็ญ ผกก.สภ.อ่าวนาง เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และ ทำอันตรายสิ่งกีดกั้น แต่ตอนนี้ผู้ต้องหายังอยู่ในอาการสลึมสลือ ไม่สามารถให้ปากคำได้ คาดว่าเสพยาเข้าไป จนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ นำปัสสาวะไปตรวจ ว่าสารเสพติดว่ามีสารเสพติดในร่างกายหรือไม่ ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ภาพ / ข่าว ณัฏฐพงษ์. ศรีปล้อง จ.กระบี่
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา