แบบนี้ก็ได้เหรอ ยึดช๊อปเปอร์ไว้โรงพัก เจ้าของตามมาขอคืนแต่รถหายถามไปบ่ายเบี่ยงสุดท้ายยอมจ่ายอ้างให้คนอื่นไปแล้ว

4.3
(7)
image_print

งานเข้า..!รถชอปเปอร์ของกลางหายปริศนา ทั้งๆที่จอดใส่กุญแจไว้ในโรงพักนิคมฯสุดท้ายยอมรับผิดขอชดใช้2แสนบาท แล้วถูกตั้งกรรมการสอบ 2ชุด
วันที่ 30 เมษายน 2564 จากกรณีที่นางสาวภัทรวรินทร์ นันจิตติศักดิ์ อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดลำพูนแต่ทำงานที่ จ.ชลบุรี และนาย ภาสกร ขุนทอง แฟนหนุ่ม ชาวจังหวัดขอนแก่น ได้พากันเดินทางไปร้องเรียนกับ พลตำรวจโทประจวบวงศ์สุขผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อขอความเป็นธรรม หลังจากถูกตำรวจ สภ.นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน ตรวจยึดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยี่ห้อ Kawasaki รุ่น Z800 ราคาประมาณ 3.9 แสนบาท ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย พยายามติดต่อขอคืนหลายครั้งแต่ถูกบ่ายเบี่ยง ต่อมาได้เดินทางมาดูรถที่ตรวจยึดไว้ในห้องเก็บของกลางได้หายไป ทั้งสองคนได้พยายามมายื่นเรื่องเพื่อขอคืนแต่ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด


นายภาสกร เรื่องเดิมนั้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ตนเองทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดลำพูน เมื่อคืนวันที่ 4 สิงหาคม 2562 ขณะที่ตนกับแฟนสาวกำลังขับรถรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยี่ห้อ Kawasaki รุ่น Z800 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นิคมอุตสาหกรรม ภาคเหนือ จ.ลำพูน ได้ทำการตั้งด่านตรวจบริเวณถนนใกล้แยกหอพักฮาน่า หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ตำรวจได้ตรวจยึดรถ บิ๊กไบค์ เอาไว้เนื่องจาก ท่อเสียงดัง จึง ออกใบตรวจยึดและให้ทางผู้เสียหาย นำหลักฐานคู่มือทะเบียนรถและนำท่อ อันใหม่ที่ไม่มีเสียงดังมาเปลี่ยนและเสียค่าปรับแล้วจะคืนรถให้
แต่ช่วงนั้นตนเองไม่มีเงินซื้อท่อใหม่มาเปลี่ยน เพราะมีราคาค่อนข้างแพง ต่อมาหลังจากมีเงินซื้อท่อมาใหม่ตนก็มาติดต่อเพื่อขอนำรถออกจากโรงพัก แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาตลอด และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาตนก็ไปดูรถในห้องเก็บของกลางอีกครั้งก็ไม่พบรถชอปเปอร์ของตนเองแล้ว สอบถามใครก็ไม่รู้เรื่อง และไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเดินทางไปร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ดังกล่าว
ต่อมาช่วงบ่ายวันนี้เวลา 13.30 น. พ.ต.อ.อำนวย คำจอง ผกก.สภ.นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ ได้เชิญผู้เสียหายทั้ง 2 คน รวมถึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวของในการเก็บรักษาของกลาง ซึ่งขณะนี้ได้ย้ายไปอยู่ที่ สภ.เมืองลำพูนแล้ว โดยให้มาทำการตกลงกัน โดยสรุปเบื้องต้น อ้างว่าตนเองได้ทำการปล่อยรถออกไปโดยที่มีคนมาอ้างว่ามาขอรับรถคันดังกล่าวไปนานแล้ว และไม่ทราบว่าคนที่เอาไปเป็นเจ้าของรถ พึ่งรู่ว่ามาสวมรอยเอารถออกไป (แต่แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่ามีคนนำรถคันดังกล่าวขายให้ชายคนหนึ่งที่ จ.ลำปาง) และต่อมาหลังจากพพูดคุยกันนานกว่า 4 ชั่วโมง (13.30-17.30 น.) เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวได้ตกลงยินดีรับผิดชอบชดใช้เป็นเงินสดให้จำนวน 2 แสนบาท โดยวันนี้ได้จ่ายมัดจำไป 1 หมื่นบาท และภายในเดือนพฤษภาคม นี้จำจ่ายส่วนที่ค้างอีก 190,000 บาท
ในส่วนของการสอบสวนคดีทางวินัยนั้น พ.ต.อ.อำนวย คำจอง ผกก.ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่ง ในส่วนของผู้บังคับบัญชาขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าวขึ้นมา 2 ชุด คือคณะกรรมการสอบสวนของ สภ.นิคมฯเอง และคณะกรรมการสอบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงตามระเบียบขั้นตอนของทางราชกา

ให้คะแนนบทความนี้

กรุณาเลือกจำนวนดาว

คะแนนค่าเฉลี่ย 4.3 / 5. จำนวนผู้ให้คะแนนโวต 7

ยังไม่มีผู้ให้คะแนนบทความนี้

Sending
User Review
4 (2 votes)

Leave a Reply

Translate »