เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2564 โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.มานพ คนหลัก ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.5 พ.ต.ท.วิษณุ บุญมา สว.กก.สส.2 บก.สส.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 บุกเข้าจับกุมตัวนายทวีศักดิ์ แสงโคม อายุ 60 ปีอยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 4 ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ที่ จ. 91/2554 ลงวันที่ 28 เม.ย.54 ในข้อหา”ฉัอโกงประชาชน”
โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่ระบาดหนักในพื้นที่ทั่วประเทศโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้นายทวีศักดิ์ ผู้ต้องหาที่หนีคดีมานานกว่า 9 ปี 11 เดือนกับอีก 30 วันเหลืออีก 1 วันหมายจับจะหมดอายุความ วิตกกังวล จึงไปปรึกษา อสม.หมู่บ้าน เพราะไม่มีหลักประกันสุขภาพใดๆ จึงไปปรึกษาเรื่องภัยไข้เจ็บ เมื่ออสม. ในพื้นที่อ.สารภี ตรวจสอบในระบบ เพื่อการช่วยเหลือลูกบ้าน ทำให้ตำรวจทราบว่ามีผู้ต้องหาหนีหมายจับมากบดาลในพื้นที่ จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบก็พบตัวนายทวีศักดิ์ กำลังขายขนมไทย อยู่บริเวณถนนเชียงใหม่-ลำพูน ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ จึงแสดงหมายจับเข้าทำการจับกุมตัวไว้ได้ก่อนหมายจับหมดอายุความ
ซึ่่งในอดีตเมื่อปี 2554 ได้มีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ ม.6 ต.บ้านเกาะ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รวมตัวเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสภ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าถูกนายทวีศักดิ์ แสงโคม หรือ “เถ้าแก่อู๊ด” ฉ้อโกงเงินรวมกว่า 20 ล้านบาท หลังมารับซื้อข้าวเปลือกนาปรังถึงแปลงนาข้าวของชาวนากว่า 100 รายในเขต อ.บางไทร, อ.เสนา, อ.ลาดบัวหลวง และ อ.บางซ้าย แต่นายทวีศักดิ์ กลับเชิดเงินแล้วหนีหายไปไร้ร่องรอย ชาวบ้านจึงรวมตัวกันแจ้งความ จนพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับไว้
หลังการจับกุมตัวนายทวีศักดิ์ หรือเถ้าแก่อู๊ด กล่าวว่านับเป็นคร่าซวย แต่ยอมรับว่าอดีตเคยฉ้อโกงชาวบ้านจริง แต่ที่ทำไปเพราะอดีตเคยติดการพนัน ตนเองทำอาชีพเป็นพ่อค้าคนกลาง รับซื้อข้าวขายให้โรงสี พอมีเงินมีทองก็เดินทางไปประเทศเขมร เพื่อเล่นในบ่อนในการพนัน และเกิดเสียหนัก จนหมุนเงินไม่ทัน หมดตัว จึงตัดสินใจหนีมาพื้นที่ภาคเหนือ และปักหลักค้าขายที่จังหวัดเชียงใหม่ อยู่เงียบๆมากว่า 10 ปีนึกว่าหมายจับหมดอายุความแล้ว ไม่คาดจะถูกจับกุมแบบนี้////////
