หมออุ๋ย นพ.นิยม วิวรรธนดิฐกุล สส.แพร่ เขต 2พรรคเพื่อไทย ได้ปรึกษาหารือในที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันทึ่12กันยายน 2568ตามข้อบังคับคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562ข้อ 24 เกึ่ยวกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพเลี้ยงราคาตกต่ำไม่เป็นธรรม โดยอภิปรายความว่าเรียนท่านประธานที่เคารพกระผมนิยม วิวรรธนดิฐกุลสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่เขต 2 พรรคเพื่อไทยวันนี้ขอเป็นตัวแทนของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ซึ่งประเทศไทยเราก็ปลูกได้ประมาณ 5 ล้านตันแต่ขาดแคลนอีก 4 ล้านตันถ้าฟังอย่างนี้แล้วราคามันน่าจะดีและก็สูงนะครับจากประกาศของกระทรวงพาณิชย์ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2568 เรื่องราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แต่สุดท้ายราคามันไม่ตรงไม่ได้เป็นไปตามประกาศครับก็คือในประกาศนี้บอกว่าซื้อข้าวโพดแห้งที่ 9 บาท 50 สตางค์ต่อกิโลกรัมที่ความชื้น 14.5 หน้าโรงงานอาหารสัตว์ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลและซื้อข้าวโพดสดนะครับ 7 บาท 5 สตางค์ต่อกิโลกรัมที่ความชื้น 30% แต่ประกาศอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์กำแพงเพชรชัยภูมิพิจิตรและอุทัยธานีส่วนจังหวัดอื่นมีตารางแนบท้ายเช่นที่จังหวัดแพร่ของผมนี่ก็ 6 บาทนะครับจังหวัดน่าน 6 บาทจังหวัดพะเยาของท่านธรรมนัส 6 บาท 78 สตางค์ แต่เมื่อวานนี้นะครับจากการเช็คนะครับประชาชนขายได้ที่ 6 บาทถ้วนนะครับที่ความชื้น 30% แต่พอไปขายจริงๆแล้วนี่นะครับก็ถูกหักความชื้นส่วนหนึ่งเหลืออยู่ที่ 5 บาท 60 สตางค์นะครับเมื่อประกาศแล้วราคามันไม่ได้เป็นไปตามประกาศราคานี้ 5 บาท 60 บาทนึ้ก็มันก็ไม่ต่างจากปีที่แล้วที่ได้ประกาศไปนะครับเพราะฉะนั้นนนะครับแนวทางแก้ไขนะครับก็ให้ทางกระทรวงพาณิชย์ประกาศเพิ่มเติมไปเลยนะครับว่าเพิ่ม 7 บาท 5 สตางค์ทุกจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดภาคเหนือซึ่งผลิตได้ 70% ของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งหมดและจะเริ่มออกมากๆในเดือนตุลาคมนี้นะครับต่อไปก็คือให้ทางพาณิชย์จังหวัดเข้าไปควบคุมดูแลนะครับในการรับซื้อให้บังคับให้ความประกาศนี้ให้ได้นะครับสุดท้ายฝากถึงท่านร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่าซึ่งเป็นรัฐมนตรีของภาคเหนือลงมาดูเรื่องนี้ด้วยนะครับและมันจะเป็นคุณูปการต่อพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งหมดวันนี้เกษตรกรไม่ได้ต้องการลดแลกแจกแถมนะครับแต่ต้องการราคาพืชผลเกษตรที่ให้เขาพออยู่ได้ขอบคุณครับ


