พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือวันนี้ มีค่า PM 2.5 ระหว่าง 44 – 133 มคก./ลบ.ม.,ค่าPM 10 ระหว่าง 60 – 183 มคก./ลบ.ม. และค่า AQI ระหว่าง 76 – 243 มคก./ลบ.ม. ซึ่งคุณภาพอากาศโดยรวมมีผลกระทบต่อสุขภาพโดยเฉพาะใน 5 จังหวัด ซึ่งค่าคุณภาพสูงสุดวัดได้ที่ อ.แม่สอด จังหวัดตาก, อำเภอเมือง ,อ.แม่เมาะ จังหวัดลำปาง ,อ.แม่สาย จังหวัดเชียงราย ,อ.เมือง จังหวัดแพร่และ อ.เมือง จังหวัดกำแพงเพชร โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการบริหารจัดการเชื้อเพลิง การจุดไฟหาของป่า, การเผาเศษวัชพืช และการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่ทางการเกษตร ทั้งนี้สถานการณ์ไฟป่าและจุดความร้อน 17 จังหวัด เช้าวันนี้เกิดจุดความร้อน จำนวน 928 จุด เกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 555 จุด พื้นที่ป่าสงวนฯ จำนวน 350 จุด
ขณะเดียวกันในห้วงวันที่ 2 – 6 มี.ค.64 กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดแผนการลาดตระเวนของกำลังชุดลาดตระเวน 6 ชุดปฏิบัติการ จำนวน 60 นาย ลงเสี่ยงจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย ร.7 พัน.2 ลงพื้นที่ บ.ดอยหลวง อ.เชียงดาว ,กองพันพัฒนาที่ 3 ลงพื้นที่ ต.หนองหาร ต.ป่าไผ่ ต.แม่แฝก อ.สันทราย , กองพันสัตว์ต่าง กรมการสัตว์ทหารบก ลงพื้นที่ อ.ดอยเต่า , มทบ.33 ลงพื้นที่ อ.อมก๋อย, กรมรบพิเศษที่ 5 ลงพื้นที่ อุทยานแห่งชาติศรีลานนา รอยต่อ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.พร้าว อ.แม่แตง อ.เชียงดาว และ ร.7 พัน.1 ลงพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด พร้อมนำประชาชนชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติ ของหมู่บ้านๆละ 50 นาย จำนวน 88,571 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ และชุดรณรงค์สร้างจิตสำนึก 15 ชุดปฏิบัติการ ออกรณรงค์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจเพื่อร่วมกันลดการเผาในพื้นที่ ตลอดจนแนะนำประชาชนดูแลสุขภาพช่วงเกิดภาวะหมอกควัน