เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 13.30 น. ที่โรงแรม รอยัล เพนนินซูล่า เชียงใหม่ นายพรชัย จิตรนวเสถียร ผู้สมัครหมายเลข 1 นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนกรณี กกต.ประกาศไม่รับสมัคร โดยตนเองนำเอกสารหลักฐานสิทธิ์ยื่นคำร้องต่อ นายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้าสู่กระบวนการวินิจฉัยสิทธิสมัคร ซึ่ง กกต.อาจสั่งให้ ผอ.กกต.เทศบาล นครเชียงใหม่ ประกาศเป็นผู้รับสมัครได้ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
นายพรชัย จิตรนวเสถียร ผู้สมัครหมายเลข 1 นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า ผมได้รับการติดต่อทางจากโทรศัพท์จาก กกต.เทศบาลนครเชียงใหม่ อย่างเป็นทางการว่า “ไม่รับสมัคร” เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรี โดยมีเวลาอุธรณ์คำสั่งภายใน 3 วัน คือวันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นวันสุดท้ายและแจ้งให้ผมสามารถรับเอกสารคำสั่งถึงสาเหตุที่ คณะกรรมการการเลือกตั้งเทศบาลนครเชียงใหม่ออกประกาศ “ไม่รับสมัคร” ผมได้ที่เทศบาลในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 21 ก.พ. 2564 เวลา10.00 น. ผมได้รับเอกสารแจ้งเหตุไม่รับสมัครผมเป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ซึ่งส่งผลให้ผมได้รับทราบข้อกล่าวหาที่แท้จริงถึงสาเหตุว่า “มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจาก ผู้ร้องเป็นผู้มีคุณสมบัติแต่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 50(3) แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 ในกรณีถือหุ้นกิจการสื่อสิ่งพิมพ์” ผมและทีมงานมีเวลาเตรียมหลักฐานเอกสารต่างๆ ในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ซึ่งเอกสารหลายอย่างเป็นเอกสารทางราชการซึ่งสามารถติดต่อประสานงานรับเอกสารหลักฐานราชการได้ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งเป็นกำหนดการวันสุดท้ายในการยื่นอุทธรณ์คำสั่ง ผมจึงยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้งเทศบาลนครเชียงใหม่ กับคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ ในจันทร์ที่ 22 ก.พ.64 เวลา 14.30 น. ซึ่งด้วยระยะเวลาที่จำกัดเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง นับจากวันที่ผมรับทราบถึงเหตุผลที่ “ไม่รับสมัคร” ผมเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ถึงวันสุดท้ายของการยื่นอุทธรณ์คำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้งเทศบาลนครเชียงใหม่
นายพรชัย กล่าวอีกว่า ผมขอยืนยันความถูกต้องและมั่นใจในคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ “ผมเองมีธุรกิจหลักๆ อยู่ 3 แห่ง คือโรงแรม 2 แห่ง และศูนย์การค้าคอมพิวเตอร์และการศึกษา ซึ่งมีใบประกอบธุรกิจจดทะเบียนมานานกว่า 20 ปี ที่ถูกคณะกรรมการ กกต.เทศบาลใช้เป็นเหตุผลที่ไม่รับสมัครผม ซึ่งผมเองได้นำเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นอุทธรณ์เป็นเอกสารชุดเดียวกันที่ใช้ในการลงสมัคร สส. ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยสิ้นสุดแล้วทั้ง 2 กรณี กรณีเช่นนี้ไม่ถือว่าผมผิดคุณสมบัติ ตามเอกสารประกอบให้กับทางกกต.ฯ 14 อย่าง ซึ่งเชื่อมโยงออกมาเพื่อพิสูจน์ว่าผมไม่เคยประกอบธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์หรือไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเลย และผมมั่นใจตั้งแต่ก่อนแล้วสมัครแล้วและมั่นใจก่อนยื่นเอกสาร ว่าผมมีคุณสมบัติครบถ้วน แต่พอผลออกมาเนี่ยเราก็เพียงแสดงหลักฐานถึงความมั่นใจของเรา ว่าเอกสารตามที่เรายื่นสมัคร เราก็ยังความมั่นใจก็ยังเหมือนเดิมกับตอนยื่นเอกสารในครั้งแรก
ซึ่งทางคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ จะได้พิจารณาและออกคำสั่ง “รับหรือไม่รับสมัคร” ผมเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ภายใน 7 วัน นับจากวันสุดท้ายของสิทธิ์การยื่นอุทธรณ์คำสั่ง ซึ่งทาง ผอ.กกต.เชียงใหม่ ได้รับคำชี้แจงแล้ว และในระหว่างนี้ผมเองก็ยังมีสิทธิ์ ในการหาเสียงได้ตามปกติ
“นายพรชัย กล่าวอีกว่า จากกรณีนี้ทำให้ผมได้รับผลกระทบในเรื่องของทางด้านคะแนนเสียงเป็นอย่างมาก วันแรกที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมาเราก็ได้รับคำชี้แนะว่าเราควรที่จะยุติการหาเสียง โดยที่สามารถที่จะเดินหาเสียงในนามหัวหน้ากลุ่มฮักกั่นเชียงใหม่ได้ แต่ว่าประกาศเบอร์ไม่ได้ซึ่งผมก็ทำตามนั้น ซึ่งลูกทีมก็เดินหาเสียงเราก็ปิดเบอร์หมดเลยนะครับ ตัวผมก็ไม่กล้าไปปรากฏตัวเท่าไหร่เพราะว่ากลัวว่าจะผิดกฎหมาย แต่พอวันที่ไปยื่นเอกสารทางท่าน ผอ.กกต.จังหวัด กรุณาให้ความชัดเจนว่าเราสามารถหาเสียงได้ปกติเพราะว่าคำสั่งถือว่ายังไม่เป็นที่สิ้นสุดจากทาง กกต.กลาง เลยสามารถที่จะหาเสียงได้ตามปกติ
ซึ่งตั้งแต่ที่ผมถูกประกาศว่าไม่รับสมัคร ผมได้รับผลกระทบเยอะมาก คือคนที่เขามีความมั่นใจในตัวเราเขาก็มีความมั่นใจในตัวเราก็ลดลง ประกอบกับมีข่าวลือออกมมาว่าเราไปติดคดีล้มละลายไหม ไปติดคดีอาญาไหม ไปมียาเสพติด ร่วมไปถึงไปมีเรื่องของการพรากผู้เยาว์ ก็มีนะ มีการส่งข่าวไปเนี่ยซึ่งเราก็ปฏิเสธเราไม่มีอะไรเลยนะครับตอนนี้ก็เป็นข่าวลือที่ออกมาจริงๆแล้วก็ได้รับการติดต่อสอบถามเยอะมากเป็น 100 สาย แล้วติดต่อกลับเข้ามา ซึ่งผมเองมั่นใจ ในหลักฐาน แต่ความมั่นใจของประชาชนที่ต่อเรา มันมีผลกระทบแน่นอน และวันนี้เป็นวันแรกที่ผมลงพื้นที่หาเสียง ที่ถนนสันป่าข่อย ก็ยังมีคำถามนั้นออกมาว่าไปมีคดีอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า แต่เขาไม่กล้าบอกว่าเป็นคดีอะไรนะ มันก็มีการบอกว่าเราโดนไปแล้วแล้วก็อีกเบอร์นึงมา การันตีว่าถ้าเลือกเบอร์นั้นนะครับจะได้เราไปเป็นรองนายกของเขา ซึ่งผมประกาศชัดเจนนะครับ ว่าผมไม่รับเป็นรองนายกของใคร
นายพรชัย กล่าวอีกว่าอย่างที่ผมไปเดินหาเสียง ยังเมื่อเช้าที่ไปเดินหาเสียงแทนที่จะได้ไปนำเสนอนโยบายให้กับประชาชนว่าเราจะเลือกตั้งโดยไม่ซื้อเสียงเราจะทำการค้าการขายที่ดีที่สุด ทำบ้านเมืองให้ปลอดภัย เราจะทำให้เชียงใหม่ เป็นเมืองน่าเที่ยวในอันดับโลก เป็นต้น กับเป็นว่าเราต้องมาตอบคำถามตามข่าวลือที่ออกมาให้กับชาวบ้าน ซึ่งเป็นอุปสรรคแต่ผมคิดว่าเราสามารถผ่านไปได้ และผมต้องขอขอบคุณทุกท่าน เราอาจจะมีอุปสรรคในการที่จะทำงานทั้งหมดที่ทำมาก็ถูกปรับเปลี่ยนไปหมดจนถึงวันนี้ ใบเอกสารในการแนะนำตัวก็ยังไม่ได้ทำเลยร่วมแผนขั้นตอนในการหาเสียงเราต้องปรับเปลี่ยนหมดทุกอย่าง และปัญหาที่เกิดขึ้นว่าชาวบ้านที่กำลังจะตัดสินใจเลือกเรา ก็ตัดสินใจไปเลือกคนอื่นแล้ว ซึ่งผมก็คงจะใช้เวลาในการที่จะแสดงความเข้าใจแล้วก็ขอคะแนนเสียงกลับมาครับ พร้อมขอกำลังใจในการที่ผมจะสู้เพื่อเมืองเชียงใหม่ต่อไป เพราะที่ผมลงสมัครชิงนายกในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อตัวผมเอง แต่เพื่อพี่น้องประชาชนในเมืองเชียงใหม่ทุกๆ ท่านครับ.