เวลา 15.00 น. วันที่ 30 พ.ค. 67 พลเอกนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (.นบ.ยส.35) ร่วมกับ พันเอก กิดากร จันทรา รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง นาวาเอก ศราวุธ เถื่อนบุญ ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจสอบของกลางและแถลงข่าวการจับกุมยาบ้า จำนวน 8,300,000 เม็ด ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตเชียงราย อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
โดยการตรวจยึดยาบ้าจำนวนมากในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากมีข่าวสารว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศ เพื่อนบ้านเข้ามายังประเทศไทยในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อลำเลียงไปยังพื้นที่ตอนใน ของประเทศ นาวาเอก ศราวุธ เถื่อนบุญ ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตเชียงราย จึงสั่งการให้ สถานีเรือเชียงแสน จัดกำลังพล จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ปฏิบัติภารกิจ ลาดตระเวนเฝ้าตรวจ เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิด ตามพระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณ ริมแม่น้ำโขง บ้านปงของ ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จนกระทั่ง เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 คืนที่ผ่านมา ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยประมาณ 20-30 คน กำลังขนถ่ายกระสอบสัมภาระ จากริมตลิ่งขึ้นใส่รถยนต์กระบะ หน่วยจึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้อาศัยความมืด วิ่งหลบหนีไป หน่วยจึงได้เข้าทำการตรวจสอบ พบกระสอบดัดแปลง จำนวน 42 กระสอบ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) กระสอบละ 200,000 เม็ด จำนวน 41 กระสอบ และกระสอบละ 100,000 เม็ด จำนวน 1 กระสอบ รวมทั้งสิ้นจำนวน 8,300,000 เม็ด บรรทุกในกระบะรถยนต์ และวางอยู่บริเวณริมตลิ่ง จึงได้ร่วมกันทำการตรวจยึด ของกลางเพื่อดำเนิน การตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
พล.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้ กล่าวว่า ทางการไทยได้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งด้านการข่าวและการติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับที่ข้ามไปอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งถือเป็นตัวการใหญ่ที่ไปทำโรงงานผลิตยาเสพติดและส่งกลับมาขายฝั่งไทย รวมถึงได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่ทั้งกองกำลังผาเมือง และ บช.ปส. เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการวิเคราะห์ด้านงานข่าวเพื่อให้ตรงเป้าหมายมากขึ้น โดยที่ผ่านมากลุ่มผู้ค้าจะใช้เส้นทางชายแดน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย แต่ปัจจุบันจะพบว่ากลุ่มผู้ค้าจะหันมาใช้การขนส่งยาเสพติดผ่านทางแม่น้ำโขงเพิ่มมากขึ้น และใช้เส้นทางผ่าน อ.เทิง จ.เชียงราย และ อ.ภูซาง จ.พะเยา มากขึ้น โดยห้วงที่ผ่านมาสามารถตรวจยึดยาบ้าได้แล้วไม่ต่ำกว่า 70 ล้านเม็ด ไอซ์อีกเกือบ 2 ตัน และมีเฮโรอีนและยาเสพติดประเภทอื่นอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งผู้ค้าเริ่มผลิตไอซ์และเฮเรอีนเพิ่มมากขึ้นเพื่อหวังขายตลาดต่างประเทศ ส่วนโรงงานผลิตยาเสพติดตามแนวชายแดนยังพบว่ามีประมาณ 7-8 แห่งเช่นเดิม และมีแหล่งรวบรวมพักยาเสพติดใกล้ชายแดนอีก 4-5 แห่ง โดยหากมีออเดอร์ไปถึงผู้ค้า ทางผู้ค้าก็จะทำการรวบรวมยาจากโรงงานหลายแห่งเพื่อส่งเข้ามาในพื้นที่ จึงจะพบว่าการจับกุมในแต่ละรอบจะมีตราสัญลักษณ์บนหีบห่อแตกต่างกัน เช่น Y1, 999 สีแดง, 999 สีน้ำเงิน