เมื่อเวลา 18.20 น.วันที่ 10 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.อุมากร แพใหญ่ กำนันตำบลลำแก่น ได้รับแจ้งจาก นายยงยุทธ พรามแก้ว ผช.ผญบ.หมู่ที่ 1 บ้านลำรู ต.ลำแก่นว่ามีนายเกษม งามศิริ อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/3 หมู่ 3 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ได้ออกจากบ้านที่บ้านเหนือคลองวังกล้วยเถื่อน(ใกล้ๆน้ำตกวังเคียงคู่ ) จึงเดินทางเข้าบ้านที่เกิดเหตุพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาหลัก ชาวบ้านจำนวนกว่า 20 คน ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลัก เส้นทางในการเดินทางระยะทางกว่า 15 กิโลเมตร สามารถใช้รถจักรยานยนต์วิบากขึ้นได้เพียงเส้นทางเดียวเนื่องจากพื้นที่มีความชันและขรุขระเป็นอย่างยิ่ง โดยผ่านสวนยางพารา ป่าไม้ และเส้นทางลำบาก
กระทั่งพบนางแหนก ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล ชาวไทยใหม่ ภรรยานายเกษม บ้านชาวบ้านประมาณ 2-3 หลัง รับทราบจากทางญาติว่าออกส่องกบในช่วงค่ำตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ที่ 7 ก.พ. 64 บริเวณสวนใกล้โครงการฝายลำรู จนถึงบัดนี้ ล่าสุดยังไม่กลับมาบ้าน ญาติๆ กำลังออกตามหาตัว ทางชาวบ้านพร้อมด้วยผู้นำท้องที่จึงระดมโดยเข้าแถวเรียงหน้ากระดานปูพรหมหาในพื้นที่รอบบ้าน ขุมน้ำ ร่องน้ำ แต่ไม่เจอตัว และล่าถอย ถอนกำลังค้นหา เมื่อสภาพท้องฟ้าเริ่มมืดคลึ้ม จากนี้ได้วางแผนการค้นหาอีกรอบในวันรุ่งขึ้นโดยได้ประสาน ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาหลัก พร้อมกำลัง
สำหรับนายเกษม เป็นผู้ชำนาญในพื้นที่ป่าเขา ดังกล่าวโดยอาศัยอยู่ในพื้นที่มาเป็นเวลานาน ปัจจุบันต้องใส่ถุงปัสสาวะผ่าหน้าท้อง จากโรคไต ปกติเป็นคนแข็งแรง เดินขึ้น-ลง บ้านที่อาศัยและภายในชุมชนบ่อยครั้ง ทางภรรยาเล่าว่าก่อนหน้านี้ นายเกษม ได้เดินหายเข้าป่าบ้างเป็นบางครั้งสาเหตุจากขัดแย้งภายในครัวเรือน แต่กลับเข้าบ้านไม่เกิน 5-6 ชั่วโมง ที่ออกจากบ้าน แต่ครั้งนี้กลับสูญหายนานถึง 3 วัน เกรงว่าจะได้รับอันตราย หรือ เป็นลมอยู่บริเวณใดสักแห่ง