เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 โดย นายจำลักษ์ กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลืออดีตเจ้าหน้าที่ กฟผ.แม่เมาะ ป่วยเป็นมะเร็งช่องท้องระยะสุดท้าย ไร้ญาติพี่น้องต้องอยู่ลำพังเพียงคนเดียวทุก และได้ย้ายทะเบียนบ้านมาอาศัย บ้านของ อสม.เพื่อจะได้สิทธิการช่วยเหลือหน่วยงานต่างๆบ้านผาลาด ดูแลหาข้าวหาน้ำให้กินประทังชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านบ้านผาลาด หมู่ 6 ตำบลแม่ทะ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นบ้านที่พักของนาย อดุลย์ นามสมมุติ เป็นผู้ป่วยเป็นมะเร็งช่องท้องระยะสุดท้าย ต้องหาข้าวหาน้ำให้กินนานเกือบปีมี น.ส.พรทิพย์ฯ ได้เล่าให้ฟังว่า “ตนเองมีอาชีพรับจ้างนวดแผนโบราณและขายข้าวเหนียวหมูปิ้งหน้าหมู่บ้านในช่วงตอนเช้าและรู้จักกับนายอดุลย์ นามสมุติ มาหลายปี ก่อนหน้านั้นที่นายอดุลย์ยังทำงานอยู่ ได้คอยช่วยเหลือตนเองและแม่ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์มาตลอด นายอดุลย์เป็นคนมีน้ำใจ มีอัธยาศัยดี หลังเออรี่จากงานประจำนายอดุลย์ได้ประกอบอาชีพขับมอเตอร์ไซด์รับจ้างอยู่ที่สุเหร่า ในตัวเมืองลำปางอยู่หลายปีและไม่ได้ติดต่อกันนานหลายปี
จนเมื่อต้นปี 64 ที่ผ่านมา นส.พรทิพย์ฯ ได้ทราบว่านายอดุลย์ ได้ป่วยนอนซมอยู่เพิงพักแถวสุเหร่าดังกล่าว จึงได้ไปเยี่ยมดูและได้พบนายอดุลย์ในสภาพที่ป่วยนอนซม เลยพาไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง ผลการตรวจแพทย์แจ้งว่าป่วยเป็นลำไส้อุดตัน จนลุกลามเป็นมะเร็งช่องท้องระยะสุดท้าย ต้องใช้เงินรักษาด้วยการผ่าตัดเป็นเงินหลักแสน หลังเข้ารับการรักษา เงินที่เก็บสะสมไว้ก็ใช้รักษาตัวจนไม่เหลือ บ้านที่นายอดุลย์เช่าซื้อกับธนาคารก็ถูกยึดเพราะไม่ได้จ่ายชำระค่าเช่าซื้อหลายเดือน น.ส.พรทิพย์สงสารเพราะความดีที่เคยช่วยเหลือตนเองกับแม่มาตลอด เลยให้มาพักอาศัยอยู่บ้านลูกสาวของตนเอง ซึ่งทำงานอยู่ที่ กทม. ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้ๆกัน โดยทุกวันจะต้องคอยหาข้าวหาน้ำไว้ให้นายอดุลย์กินทุกมื้อ เป็นเวลาเกือบปี รายได้ที่มีก็อาศัยเงินเดือนผู้สูงอายุของนายอดุลย์ เดือนละ 600 บาทและเงินเดือน อสม.ประจำหมู่บ้านของตนเอง เดือนละ 1,000 บาท รายจ่ายหลักๆที่ต้องใช้คือแพมเพิส ผ้ารองที่นอน เนื่องจากนายอดุลย์บังคับการถ่ายปัสสาวะไม่ได้ บางวันนอนไม่มีแรงจะลุกขึ้นมากินข้าว รายได้ที่มีไม่เพียงพอกับรายจ่าย จะไปทำงานก็ไม่มีใครดูแลนายอดุลย์ ที่เพียงพอในชีวิตประจำวัน ในเบื้องต้นทางหน่วยงาน one Home พม.ลำปาง มีหน่วยงาน ผู้แทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลำปาง ในการนี้ นายณรงค์ฤทธิ์ นุปิง ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดลำปางได้ร่วมวางแผนช่วยเหลือสอบข้อเท็จจริงช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ฉุกเฉินเป็นเงิน 2,000 บาท และศูนย์บริการคนพิการได้ประสานให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้ประสานร่วมทีมแพทย์มาประเมินความพิการหากผลปรากฎว่าพิการทางเคลื่อนไหวจะได้รับเบี้ยความเป็นพิการเดือนละ 800 บาทจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมนี้นางสาวพีรญา นพรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จ.ลำปาง ได้มอบแพรมเพริสพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค และมีหน่วยงาน กฟผ แม่เมาะได้มอบน้ำดื่มและผ้าห่มของใช้ในครั้งนี้อีกด้วย.
