ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านห้วยเดื่อพัฒนา หมู่ 16 ต.บ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ชาวบ้าน 10 หลังคาเรือน รวมกว่า 40 คน ต้องเดือดร้อน เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าและไม่มีน้ำประปาใช้ ต้องใช้รถขนน้ำมาไว้สำหรับอุปโภค-บริโภค ทำให้ไร่สัปปะรดที่ชาวบ้านปลูกไว้กว่า 100 ไร่เสียหาย หน้าร้อนก็ร้อนมาก ไม่มีพัดลมและตู้เย็น ต้องอยู่อย่างลำบาก
ทางด้านนางนฤมล ยืนยง อายุ 42 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้มานานกว่า 8 ปี เปิดเผยว่า เมื่อปี 2556 ชาวบ้านได้รวมกันไปยื่นหนังสือเรื่องขอไฟฟ้าใช้ที่ กฟภ.ลำปาง เพราะต้องอยู่แบบยากลำบาก โดยไม่มีไฟฟ้าใช้มานานกว่า 8 ปีแล้ว บางหลังใช้เทียนกับตะเกียง บางหลังก็ใช้โซลาร์เซลล์ เรื่องผ่านไป 5-6 ปี แต่ไม่มีความคืบหน้า และเมื่อเดือน พ.ย. 2563 ชาวบ้านได้ทำหนังสือถึงนายมานพ ปัญญายืน นายก อบต.บ้านเสด็จ ขอให้ช่วยประสาน กฟภ.ลำปาง ให้ช่วยเหลือ ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2564 นายก อบต.บ้านเสด็จ ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้าน และประสานเจ้าหน้าที่ กฟภ.ลำปาง สาขาย่อยตำบลพิชัย-บ้านเสด็จ เข้าตรวจสอบพื้นที่เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2564 ที่ผ่านมา แต่มีปัญหาคือตามหลักเกณฑ์ระเบียบ กฟภ. การขยายเขตไฟฟ้าต้องมี ไม่ต่ำกว่า 15 หลังคาเรือน และต้องมีหลักฐานขอแบบบ้าน และขออนุญาตก่อสร้างตามแบบกับทาง อบต.บ้านเสด็จ พร้อมแสดงโฉนดที่ดินและมีบ้านเลขที่ ซึ่งมีบ้านอีกจำนวน 5 หลัง ไม่มีบ้านเลขที่ ซึ่งไม่ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ระเบียบของ กฟภ. ทาง อบต.บ้านเสด็จพร้อมที่จะประสานงานและหาทางดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป
ขณะที่เจ้าหน้าที่ กฟภ.ลำปาง สาขาย่อยตำบลพิชัย-บ้านเสด็จ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ส่งเจ้าหน้า กฟภ.ที่ลงไปสำรวจพื้นที่ ตามที่ชาวบ้านแจ้งมา แต่ขณะนี้ยังไม่มีหนังสือร้องขอจากชาวบ้านมาอย่างเป็นทางการ เพียงแต่มีการพูดคุยในเบื้องต้นเท่านั้น หากมีหนังสือขอร้องมาก็พร้อมที่จะพิจารณาดำเนินการ ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก เพราะจากระยะทางเสาไฟฟ้าต้นแรก ถึงเสาไฟฟ้าต้นสุดท้ายระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร รวมค่าใช้จ่ายในการขยายเขตไฟฟ้า ทั้งหม้อแปลงเสาไฟฟ้าและสายไฟแรงสูง-แรงต่ำ และอื่นๆ ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท.
ภาพ/ข่าว.อัมรินทร์ วะนะวิเชียร ผู้สื่อข่าวจังหวัดลำปาง.
