ชาวบ้านท่าควาย ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ สืบชะตาบ้าน สืบชะตาเมือง เพื่อขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ห่างไกลจากหมู่บ้านโดยเฉพาะโรคติดต่อ ไวรัส-19 ให้หมดไปจากจังหวัดน่าน
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2565 ที่บริเวณ 4 แยกทางเข้าพระธาตุรัตนะสี่มุมเมือง บ้านท่าควาย หมู่ที่ 3 ตำบลไชยวัฒนา อำเภอปัว จังหวัดน่าน นายประสิทธิ์ ศิริรัตน์ กำนันตำบลไชยวัฒนา อำเภอปัว จังหวัดน่าน นำลูกบ้านในหมู่บ้านทำพิธีสะเดาะเคราะห์ บ้าน สะเคราะห์เมือง เพื่อเป็นการแก้เคราะห์สิ่งร้ายๆ โรคติดต่อ ไวรัส-19 ให้หมดไปจากจังหวัดน่าน ให้กลายเป็นดี เช่น เคราะห์ทั่วไป เรียกว่า เคราะห์ตัวเอง เคราะห์บ้าน เคราะห์เมือง เคราะห์กับชาตาชีวิต คือ เคราะห์ ตัวเปิ่ง ตัวจน (ตัวพึ่ง-ตัวชน) และเคราะห์ นวฆาต ทั้งเก้า และราหู เพื่อบูชาพระอินทร์และเทวดาที่รักษาตน ให้อยู่เย็นเป็นสุข มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมีชาวบ้านและบุตรหลานร่วมพิธีสืบชะตาเคราะห์ เพื่อเป็นสิริมงคล ตามความเชื่อมาตั้งแต่โบราณกาล โดยมี พระครูนันทโชติวัฒฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระสงฆ์จำนวน 9 รูปทำพิธี
ซึ่งการทำพิธีสงเคราะห์ ให้กับตนเอง โดยกระบวนการพิธีการสงเคราะห์จะต้องมีการจัดเตรียมสะตวง โดยใช้ ไม้ค้ำ (ต้นกล้วย) กาบกล้วยทำเป็นกระทงสี่เหลี่ยม ใช้ไม้ไผ่ยึดให้แน่น ประดับด้วยช่อตุง ต้นเทียน ตกแต่งให้สวยงาม ภายในประกอบด้วยข้าวปลาอาหาร ขนม หมากพลู สายสิญจน์ และจัดเตรียมเป็นประเพณีสำคัญอย่างหนึ่งของชาวล้านนา ที่เชื่อกันว่าเป็นการต่ออายุ หรือต่อชีวิตของบ้านเมืองหรือของคนให้ยืนยาว มีความสุข ความเจริญ ตลอดจนเป็นการขจัดภัยอันตรายต่างๆ ที่จะบังเกิดขึ้นให้แคล้วคลาดปลอดภัย
พิธีสะเดาะเคราะห์ สืบชะตาหมู่บ้าน เมือง เป็นประเพณี ของจังหวัดน่าน ที่ได้ยึดถือและปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน ชาวบ้านในทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ต่างรู้จัก และยึดมั่นปฏิบัติกันมาเป็นเวลาช้านาน เพราะเชื่อว่าก่อให้เกิดขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่การงานพร้อมที่จะสู้กับชะตาชีวิตต่อไป อีกทั้งความเชื่อว่าทุกข์ภัยทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองและญาติพี่น้อง ก็จะหมดหายไปอีกทั้งชีวิตก็จะยืนยาวยิ่งขึ้น การส่งเคราะห์บ้านหรือการส่งเคราะห์เมือง เป็นพิธีกรรมนี้ จะเป็นการขับไล่สิ่งที่ไม่ดีงามให้ออกไป จากนั้นชาวบ้านจะทำการ จุดไฟเผาด้ายสายสิน และทำความสะอาดปัดกวาดบ้านเรือนให้เรียบร้อย ชำระร่างกาย สระผมให้สะอาด เพื่อความเป็นสิริมงคล แด่ตนเองและครอบครัวด้วย
@@@@@@@@@@@
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น