อบจ.เชียงใหม่ เปิดศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันฯ อย่างเป็นทางการ โดยดึงหน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมเฝ้าระวังลาดตระเวนในแต่ละพื้นที่ พร้อมนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

0
(0)
image_print

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2565 เวลา 10.00 น. นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ ณ ห้องปฏิบัติการองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยมีนายนายนาวิน สินธุสอาด รองนายกอบจ.เชียงใหม่, นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่, พลตรีประสิษฐิพงศ์ มูลดี รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือกองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า, นายอิสระ ศิริไสยาสน์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่กล่าวรายงาน พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธีเปิดในครั้งนี้

โดยจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลกลางในการบริหารจัดการไฟป่า หมอกควัน และมลพิษด้านฝุ่นละอองของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อใช้ในการจำนวยการ สั่งการ ควบคุมและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันที่เกิดขึ้นจากแหล่งกำเนิดในพื้นจังหวัดเชียงใหม่ และให้กำหนดรายละเอียดการแบ่งพื้นที่ ผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ และมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้ว่าราชการเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ (Single Command) ซึ่งจะบูรณาการหน่วยงานแก้ไขปัญหาร่วมกันกับหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน


ส่วนในระดับอำเภอก็จะมีศูนย์บัญชาการระดับอำเภอ ให้นายอำเภอเป็นผู้ประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ และสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะต้องมีชุดปฏิบัติการที่มีทั้งกำลังคนและอุปกรณ์ เพื่อเป็นกำลังผสมร่วมกับทหารและพลเรือน ออกไปลาดตระเวนเฝ้าระวังการเกิดไฟในพื้นที่แต่ละอำเภอ ตลอดจนการจัดชุดปฏิบัติการ ที่สามารถข้าไปยังจุดที่มีการเผา หรือก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เพื่อทำการแก้ไข
ปัญหาได้อย่างครอบคลุมในทุกพื้นที่

ทั้งนี้ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้วางแนวทางการแก้ไขปัญหาและรับมือ
สถานการณ์หมอกควันไฟป่า โดยมุ่งเน้นจุดที่เกิดไฟป่าซ้ำซาก ส่วนการเผาในพื้นที่ทางการเกษตรจะต้องวางแผนจัดการอย่างเป็นระบบ โดยการบูรณาการข้อมูลตรวจวัด จากกรมควบคุมมลพิษ และเครือข่ายเครื่องมือตรวจวัดจากเซนซอร์ราคาประหยัด ช้อมูลภาพดาวเทียม เช่น ข้อมูลจุดความร้อน และร่องรอยการเผาไหม้ รวมทั้งข้อมูลจากแบบจำลองการพยากรณ์คุณภาพอากาศ WRF-Chem เช่น การพยากรณ์ความเข้มชันฝุ่น PM2.5 และการพยารณ์ดัชนีทางอุตุนิยมวิทยาที่มีผลต่อคุณภาพอากาศ มาเป็นข้อมูลสนับสนุมการ
ตัดสินใจในการบริหารเชื้อเพลิง สำหรับเป้าหมายในภาพรวมของจังหวัดเชียงใหม่ คือการยับยั้งค่าฝุ่นละอองไม่ให้เพิ่มสูงขึ้น จนส่งผลกระพบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน และตั้งป้าหมายลดจุดความร้อน (Hot spot)
ลงให้ได้มากที่สุด

ทางด้านนายนาวิน สินธุสอาด รองนายกอบจ.เชียงใหม่ เผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้สนับสนุนพื้นที่ในการจัดตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดจนอำนวยความสะดวกเครื่องมืออุปกรณ์งบประมาณและให้ความร่วมมือในทุกทุกด้านเพื่อส่งเสริมนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ให้มีคุณภาพอากาศที่ดี จากการดำเนินการศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ในปีพ.ศ. 2564 ได้ใช้นวัตกรรมระบบข้อมูลสารสนเทศแบบ Real Time ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับแอพพลิเคชั่น Fired ประกอบการตัดสินใจบริหารเชื้อเพลิงของจังหวัดเชียงใหม่ทำให้ฝุ่นละอองและพื้นที่เผาไหม้ในจังหวัดเชียงใหม่ลดลงส่งผลให้ได้รับรางวัลที่ 1 ประเภทโดดเด่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดีประจําปีงบประมาณ 2564 และได้รับเกียรติจากสำนักนายกรัฐมนตรีเชิญไปเป็นตัวแทนของประเทศไทยเข้าประกวดรางวัล United Natons Pubic Service Awards (UNPAS) ซึ่งเป็นรางวัลที่จัดตั้งขึ้นโดยสหประชาชาติเพื่อมอบให้แก่หน่วยงานที่ดำเนินงานด้านการให้บริการสาธารณะ

ให้คะแนนบทความนี้

กรุณาเลือกจำนวนดาว

คะแนนค่าเฉลี่ย 0 / 5. จำนวนผู้ให้คะแนนโวต 0

ยังไม่มีผู้ให้คะแนนบทความนี้

Sending
User Review
0 (0 votes)

Leave a Reply

Translate »