เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อริยะพล สินสอน รอง ผบก.ปทส.,พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.๔ บก.ปทส.,พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รอง ผกก.4 บก.ปทส.,พ.ต.ต.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม/ตรวจยึด ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดลำพูน-เชียงใหม่-ฮอด, เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรบ่อหลวง โดยการอำนวยการสั่งการของ พ.ต.ท.ตรีโลจน์ ปันตี รอง ผกก.ป. สภ.บ่อหลวง รรท.ผกก.สภ.บ่อหลวง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.ที่ 33โดยการอำนวยการสั่งการของ พ.ต.อ.อภิชาติ รักพงษ์ ผกก.ตชด.33 พ.ต.ท.ผดุงเกียรติ ปัณฑรนนทกะ, เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปพ.สส.ภ.5 โดยการอำนวยการสั่งการของ พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ ยอดคำ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.5
, เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ฮอด, หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.21 (บ้านแวน) ได้ร่วมกันจับกุม นายนิรันดร์ หรือแป๋ว บรรเทิง อายุ 37 ปี ต.บ่อสลี อ.ฮอด จว.เชียงใหม่ ผู้ถูกจับที่ 1 (พบอยู่ในป่าแปลงถูกบุกรุกที่เกิดเหตุ) และนายดุสิต หรือจิน จานะ อายุ 38 ปี ต.บ่อสลี อ.ฮอด จว.เชียงใหม่ (พบอยู่ในป่าแปลงถูกบุกรุกที่เกิดเหตุ) พร้อมด้วยของกลาง/พยานหลักฐาน/อุปกรณ์ซึ่งมีไว้เป็นความผิด/ได้ใช้ในการกระทำความผิด ตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมตแอมเฟตามีน (ยาบ้า) จำนวน 316 เม็ด รายละเอียดแยกเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมตแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ชนิดเม็ดกลมแบน มีอักษร WY ประทับด้านหนึ่ง ด้านหนึ่งผิวเรียบ จำนวน 113 เม็ด แบ่งเป็นชนิดสีส้ม จำนวน 112 เม็ด สีเขียว จำนวน 1 เม็ด (ตรวจพบอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ มีโลโก้แอปเปิ้ล ปากถุงแบบกดปิดได้ ซุกซ่อนอยู่ตลับ/กล่องขนมปังแบบวงกลมอยู่ภายในกระเป๋าสะพายข้าง/ถุงย่ามสีน้ำเงินลายทาง แขวนไว้ที่ไม้ราวไม้ข้างต้นไม้ในป่าแปลงถูกบุกรุกที่เกิดเหตุ, ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมตแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ชนิดเม็ดกลมแบน มีอักษร WY ประทับด้านหนึ่ง ด้านหนึ่งผิวเรียบ จำนวน 203 เม็ด แบ่งเป็นชนิดสีส้ม จำนวน 201 เม็ด สีเขียว จำนวน 2 เม็ด, ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชาอัดแท่ง) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 9.063 กรัม, อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนยาวอัดลมประดิษฐ์จากสูบจักรยาน) จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน (ลูกเหล็กจักรยาน) จำนวน 1 ขวด, อุปกรณ์การเสพยาบ้า จำนวน 1 ชุด, ไม้หวงห้าม (สนเขา) จำนวน 8 ท่อน ปริมาตร 1.00 ลูกบาศก์เมตร คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 10,000.- บาท, เลื่อยโซ่ยนต์ ยี่ห้อ เคนโต๊ะ สีส้ม-ดำ ไม่ทราบขนาดกำลังเครื่องจักรกลต้นกำลัง พร้อมแผ่นบังคับโซ่ยาวขนาด 10 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง , ขวานด้ามไม้ จำนวน 1 เล่ม, เชือกไนล่อนสีขาว ความยาวประมาณ 10 เมตร จำนวน 1 ม้วน, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า สีดำ-แดง พ่วงข้าง จำนวน 1 คัน
, ตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติถูกบุกรุก เนื้อที่ จำนวน 2 – 1 -61 ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 163,860.- บาท
พฤติการณ์แห่งคดีภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อริยะพล สินสอน รอง ผบก.ปทส พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.๔ บก.ปทส.,พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รอง ผกก.4 บก.ปทส และ พ.ต.ต.ยศวัฒน์ เอกกุล สว. กก.4 บก.ปทส. ให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมห้วงวันที่ 11 – 20 พ.ย. 2564
เมื่อวันที่15 พ.ย. 64 ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดเชียงใหม่ – ฮอด,ลำพูน,แม่ฮ่องสอน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการตะเวนชายแดนที่ 33, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อหลวง ,เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและสิ่งแวดล้อม ตำรวจภูธร ภาค 5 และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม. 21 (บ้านแวง) ดังมีรายนามท้ายบันทึกนี้ ร่วมกันออกตรวจปราบปรามอาชญากรรมที่มีโทษทางอาญาในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ตามสั่งการของผู้บังคับบัญชาให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ตามวันและเวลาดังกล่าวเมื่อคณะเจ้าหน้าที่ตรวจลาดตระเวนมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ป่าห้วยแม่เตียน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย หมู่ 8 ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ พิกัด 47 Q 424688 E UTM 2006612N พบเห็นชายฉกรรจ์ จำนวน 2 คน อยู่ในแปลงป่าถูกบุกรุกใหม่ ซึ่งชายฉกรรจ์คนหนึ่งทราบ กำลังใช้ขวานสับไม้ ผ่าไม้อยู่ข้างกองไฟ (นำไม้ท่อนที่ถูกตัด โค่น) มาก่อกองไฟจุดไฟสุมเพื่อทำลายลักษณะเผาป่า และชายฉกรรจ์อีกคนหนึ่งกำลังใช้เสียมขุดดิน (ขุดตอไม้ รากไม้) อยู่ข้างๆ กับแนวป่าด้านทิศตะวันออกของแปลงป่าถูกบุกรุก ปรากฏว่าเมื่อชายฉกรรจ์ทั้งสอง 2 มองเห็นรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. ชายฉกรรจ์บุคคลที่กำลังขุดดินอยู่ใกล้แนวป่าถือเสียมวิ่งหลบหนีเข้าป่าไปและชายฉกรรจ์อีกคนที่กำลังสุมไฟอยู่ก็ได้วิ่งหลบหนีเข่าป่าไปทางด้านทิศตะวันออกของแปลงป่าถูกบุกรุก เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าบุคคลทั้งสองคนมีเหตุอันควรต้องสงสัยว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายอื่นไว้ในครอบครองอันเป็นความผิด หรือได้กระทำความผิดแล้วจะหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้หยุดรถวิ่งไล่กวดติดตามจับกุมและจับกุมตัวได้ทราบชื่อในเวลาต่อมาชื่อนายนิรันดร์ หมู่ 8 ต.บ่อสลี อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ผู้ถูกจับกุมที่ 1 และนายดุสิต ต.บ่อสลี อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่สอบถามนายนิรันดร์ฯ กับพวก ว่าตนมาทำอะไร อย่างไรในบริเวณป่าแปลงที่ถูกบุกรุกที่เกิดเหตุ นายนิรันดร์ฯ ให้การว่า “ตนพร้อมด้วยนายดุสิตฯ ผู้ถูกจับกุมที่ 2 ซึ่งเป็นญาติกันได้ร่วมกันมาทำการแผ้วถางป่าที่เกิดเหตุดังกล่าว เพื่อจะนำเอาที่ดินไปเป็นที่ทำกิน” เจ้าหน้าที่สอบถามว่า ทราบหรือไม่ว่าป่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย นายนิรันดร์ฯ กับนายดุสิตฯ ให้การว่า “ตนทราบว่าพื้นที่ป่าบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ลาย แต่ด้วยตนไม่มีที่ทำกินเป็นของตนเองตนจึงมาทำการแผ้วถางป่า โดยแบ่งหน้าที่กันทำ และได้ตัดโค่น ตัดทอนไม้สนซึ่งมีขนาดลำต้นโตพอที่จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ใช้เลื่อยโซ่ยนต์ของกลางตัดทอนเป็นท่อน ๆ เตรียมการที่จะแปรรูปไม้นำไม้ไปใช้ปลูกสร้างบ้าน”
เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าพื้นที่แปลงป่าถูกบุกรุกที่เกิดเหตุพบตอไม้สนเขา ถูกขุดลาก ถอนโคน ด้วยเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ (รถแบคโฮล) ตอไม้ ท่อนไม้ กิ่งไม้ และปลายไม้บางส่วนถูกเครื่องจักรดันไปกองไว้ใกล้แนวขอบป่าสุดเขตแดนพื้นที่ป่าถูกบุกรุก พบมีการรวบรวมตอไม้ เศษไม้ ปลายไม้ กิ่งไม้รวมกันเป็นกอง ๆ แล้วจุดไฟสุม กองไม้บางกองพบว่าไฟกำลังไหม้ท่อนไม้ กิ่งไม่อยู่ พบร่องรอยขุดตอไม้เป็นหลุมกว้างกว้างกระจัดกระจายอยู่ทั่วแปลงพื้นที่ป่าถูกบุกรุก นายนิรันดร์ฯ รับว่าตนได้ใช้เสียมขุดเอารากไม้ออก เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตกใจกลัวได้ถือเสียมวิ่งหลบหนีและได้ทิ้งเสียมไว้ในป่า เจ้าหน้าที่พาไปหาเสียมแล้วไม่พบ เจ้าหน้าที่พบกองท่อนไม้ขนาดต่างๆ จำนวน 8 ท่อน กองรวมกันอยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของแปลงป่าที่ถูกบุกรุก ในชั้นจับกุมนายนิรันดร์ฯ และนายดุสิตฯ ให้การยอมรับว่าพวกตนได้ตัดโค่น ตัดทอนไม้สนที่ขึ้นอยู่ในแปลงพื้นที่ป่าถูกบุกรุกและป่าบริเวณใกล้เคียงจริง เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาพฤติการ///ำณ์แห่งการกระทำดังกล่าวของนายนิรันดร์ฯ กับพวก แล้วน่าจะมีบุคคลอื่นร่วมกระทำความผิดด้วย./////