วันที่ 28 ส.ค. 64 เวลา 08.30 น. พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา กองกำลังผาเมือง โดย กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 ( ร้อย.ม.4 ฉก.ม.5) จัดกำลัง 3 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองกำกับการ 2 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่ 3 กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ( กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส. )บูรณาการตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดกั้น บริเวณบ้านหัวนา ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 2 คัน จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่รถยนต์ทั้ง 2 คัน ได้หลบหนีการตรวจค้น
โดยคันที่ 1 ใช้เส้นทางชนบท 3059 บ.ม่วงชุม – บ.หัวนา เมื่อถึงบริเวณป้อมตำรวจ บ.หัวนา ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ หน่วยสามารถสกัดจับและได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย จำนวน 1 คน ส่วนคันที่ 2 หลบหนีโดยใช้เส้นทาง บ.ม่วงชุม – บ.หนองเต่า เมื่อมาถึงบริเวณ บ้านม่วงชุม ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง ได้ทำการทิ้งสัมภาระ และอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ หน่วยจึงจัดกำลังร่วมเพื่อเข้าตรวจสอบบริเวณพื้นที่โดยรอบ ตรวจพบกระเป๋าเป้สีเขียว จำนวน 2 ใบ และถุงกระสอบ จำนวน 3 ใบ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 498,000 เม็ด จึงได้นำตัวผู้ต้องสงสัยพร้อมของกลาง นำส่งที่ กองกำกับการ 2 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่ 3 กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด เพื่อขยายผลในพื้นที่
ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง กล่าวว่า กองกำลังผาเมืองได้จัดกำลังเพิ่มความเข้มในการตรวจติดตามกลุ่มขบวนการลักลอบค้ายาเสพติด และการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดนของจังหวัดเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ อำเภอฝาง, อำเภอแม่อาย ที่ปรากฏข่าวสารว่าจะมีการลักลอบค้ายาในพื้นที่ จึงได้วางกำลังบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสกัดกั้น อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 และความไม่สงบในประเทศเมียนมา ไม่ได้ส่งผล ต่อการผลิตยาเสพติดตามแนวชายแดน ซึ่ง แหล่งผลิตยังคงทำการผลิตตามความต้องการของกลุ่มลูกค้า ที่สำคัญชนกลุ่มน้อย ยังคงมีเสรีในการผลิต และค้ายาเสพติดมากขึ้น โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้าทางชายแดนภาคเหนือ