เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 15 ส.ค.64 นายอันวาร์ สาและ ประธานคณะกรรมาธิการพาณิชย์ และทรัพย์สินทางปัญญา ,นายนพพล ภู่แย้ม ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการพาณิชย์ และทรัพย์สินทางปัญญา และนางภูษณิศ ไชยมณี ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับดูแลและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์ จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน โดยได้ไปพบปะกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ในพื้นที่อำเภอจอมทอง อำเภอพร้าว อำเภอสันป่าตอง อำภอสารภี และทุกอำเภอ ในสองจังหวัด เพื่อรับฟังปัญหาลำใย ล้นตลาด และราคาตกต่ำ ขายไม่ออก โดยมีการเชิญกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลำไย พ่อค้าคนกลาง พาณิชย์จังหวัดและคณะทำงานประชุมปรึกษาหารือถึงมาตรการการช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อรับซื้อลำไยและชดเชยให้กับเกษตรกร ผู้ปลูกลำไย เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด รวมทั้งปัญหาการรับชื้อลำไยที่ถูกปิดกันจากประเทศเพื่อนบ้าน
โดยในขณะนี้พื้นที่ภาคเหนือมีผลผลิตที่ออกมาราวๆ 1.4 ล้านตัน พื้นที่ปลูกลำไยเยอะที่สุดคืออำเภอพร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเมื่อผลผลิตออกมาจำนวนมาก แต่กลับขายไม่ออกเพระาเหตุผลหลักคือประเทศจีน ไม่รับซื้อ โดยให้เหตุผลว่ากลัวการแพร่ระบาดของเพลี้ยแป้งที่ติดไปกับตู้คอนเทรนเนอร์ โดยทางสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน(GACC)พบเพลี้ยแป้ง ซึ่งเป็นศัตรูพืชกักกันของจีนในผลไม้ส่งออกของไทย อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องโควิด 19 ทำให้ขาดแคลนแรงงานในการเก็บลำไย และการส่งออกขายยังพื้นที่ต่างๆก็ทำไม่ได้ เพราะการขนส่งถูกระงับเพราะพิษโควิด 19 รวมถึงล้งใหญ่ต่างๆที่มีคนจีนดำเนินกิจการก็ไม่เปิดบริการเพราะปัญหาการเดินทางการขนส่งข้ามชาติ รวมถึงการส่งออกด้วยตู้คอนเทรนเนอร์ยังมีการตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด 19 ติดไปทำให้ตู้คอนเทรนเนอร์ถูกทำลาย และทำให้ราคาตู้คอนเรนเนอร์มีราคาสูง
นายนพพล ภู่แย้ม ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการพาณิชย์ และทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า การที่คณะเราเดินทางมาวันนี้เพราะรับฟังปัญหาเกี่ยวกับผลผลิตราคาลำไยที่ตกต่ำทั้งหมด จากเกษตรกรจริงๆ และจะนำปัญหาทั้งหมดนำเสนอที่ประชุมกรรมมาธิการ เพื่อแก้ไขปัญหาระยะสั้น และระยะยาว โดยระยะสั้น ทางคณะกรรมาธิกาฯก็จะดำเนินการจัดกลุ่มผู้ซื้อ พบผู้ขาย โดยตรง และมีการนำงบประมาณส่วนตัว ซื้อนำ เพื่อพยุงราคาให้ดีขึ้น ส่วนการขนส่งการด้านอื่นๆเราก็จะมีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากันไปก่อน ส่วนระยะยาวก็ต้องประชุมโดยเฉพาะตลาดต่างประเทศอาทิจีน เราก็ต้องแก้ไขปัญหาเรื่องเพลี้ยแป้ง โดยจะมีการพูดคุยกันระดับใหญ่ต่อไป นอกจากนี้ยังจะมีการเปิดตลาดส่งออกใหม่ๆเช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศอื่นๆ เพื่อระบายผลผลิตลำไย ซึ่งเชื่อว่าการลงพื้นที่ในครั้่งนี้ทางคณะกรรมาธิการฯจะได้รับข้อมูลและรับทราบผลกระทบจริงๆของกลุ่มเกษตรกร เพื่อนำไปพิจรณาเร่งดำเน้การช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้นต่อไป.
/////////////////////
นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่
