ได้ด้วยเหรอ?..ชาวบ้านงงตั้งแท่นแปรรูปไม้ในป่าช้า เย้ยกฎหมาย..ป่าไม้ร่วมกับตำรวจเข้ารวบตัว 2 ผู้ต้องหา อ้างจ่ายค่าไฟให้คนดูแล
***เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 สิงหาคม 2564 นายสักรินทร์ ปัญญาใจ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ ร่วมกับ นายประสิทธิ์ ท่าช้าง ผอ.สจป.ที่ 3 สาขาแพร่, พ.ต.ท.จิตรภณ สมหมาย หัวหน้าชุดปฎิบัติการ ศปทส.ภาค 5, นายพิษณุพันธ์ วงศ์ขันธ์ หัวหน้าชุดปฎิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 3 สาขาแพร่ และนายนันทพงษ์ คำปิน เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ร้อย ตชด.323 กก.ตชด.32 (พะเยา), เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.8 ห้วยขมิ้น และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองแพร่ เข้าตรวจสอบ หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีการลักลอบแปรรูปไม้ในพื้นที่ สุสานมังกร หมู่ 8 ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ จ.แพร่
***ที่เกิดเหตุ พบ นายอาคม พรหมเมศร์ อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 287/1 หมู่ 6 ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ และนายสงกรานต์ คำวรรณ์ อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 39/1 หมู่ 1 ต.วังธง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ กำลังร่วมกันทำการแปรรูปไม้ โดยมีอุปกรณ์แปรรูปไม้ เช่นใบเลื่อยวงเดือนเส้นผ่าศูนย์กลาง ขนาด 32 นิ้ว จำนวน 3 ใบ มอเตอร์ ลูกกลิ้ง และสายพาน ซึ่งต่อพ่วงอุปอุปกรณ์โดยใช้ไฟฟ้าของสุสานมังกร นอกจากนี้ยังพบไม้สักท่อน จำนวน 16 ท่อน ไม้สักแปรรูป จำนวน 24 แผ่น ไม้สะเดาท่อน จำนวน 1 ท่อน คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐรวมมูลค่าเกือบ 3 แสนบาท
***ทั้ง 2 ให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายบุญส่งฯ ซึ่งเป็นชาวบ้านมณีวรรณ หมู่ 4 ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ ให้แปรรูปไม้โดยได้รับค่าจ้างแผ่นละ 18 บาท และมีคนมาจ้างอีก 2 คน จำชื่อไม่ได้ ซึ่งไม้ทั้งหมดไม่ทราบว่ามีเอกสารสิทธิหรือไม่ ส่วนการมาตั้งโรงงานแปรรูปไม้นั้น ได้ขออนุญาตผู้ดูแลสุสานขอเชื่อมต่อใช้ไฟฟ้าโดยจ่ายค่าไฟให้กับสุสานมังกรตามยอดบิลทั้งหมด ซึ่งการตั้งโรงงานแปรรูปนั้นไม่ได้ขออนุญาตแต่อย่างใด ทำการแปรรูปไม้มาได้ 4 วันแล้ว
***เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ตั้งโรงงานแปรรูปโดยใช้เครื่องจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนทำการยึดของกลางทั้งหมด และนำตัวทั้ง 2 คน ส่งมอบให้ ร.ต.อ.ศรีไพร สัจจะนรพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
