เชียงใหม่ สนธิกำลังตำรวจ ปทส จับชาวบ้านบุกรุกป่าสงวน

0
(0)
image_print

สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจ สภ.บ้านโฮ่ง บุกจับชาวบ้านบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าบ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ขณะเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหากำลังจุดไฟโค่นต้นไม้ เพื่อแผ้วถางพื้นที่ป่า ทำสวน เบื้องต้นพบพื้นที่ป่าถูกบุกรุกได้รับความเสียหายรวมกว่า 15 ไร่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเผย ผู้ต้องหาใช้วิธีนำยางกองสุมไฟที่โค่นต้นไม้เพื่อให้ต้นไม้ยืนต้นตาย ซึ่งพบต่อไม้และท่อนไม้จำนวนมากที่ถูกโค่นลง

พ.ต.ท.กันต์พงษ์ สุวรรณศรี สารวัตร.กก.4 บก.ปทส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดลำพูนเชียงใหม่-ฮอด พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.33 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูนเข้าตรวจค้น บริเวณป่าข้างลำห้วยหญ้าแจ้ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าบ้านโฮ่ง บ้านปากทางม่วงโตน ต.เหล่ายาว อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน พร้อมเข้าจับกุมตัวนายไชยรัตน์ อุตมะแก้วอายุ 51 ปี ชาวบ้าน ต.เหล่าวยาว อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ขณะกำลังสุมไฟเผาโคนต้นไม้ อยู่ในแปลงป่าถูกบุกรุกเป็นสวนไม้ผล หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พาตัวนายไชยรัตน์ เดินสำรวจรอบๆผืนป่าที่ถูกบุกรุกพบว่ามีการปลูกไม้ผล และมีการสร้างเพิงพัก อยู่กลางสวน บางจุดพบมีการโค่นต้นไม้ มีร่องรอยต้นไม้ถูกเผาที่โคนต้นไม้ บางส่วนถูกตัดล้มลง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบท่อนไม้ถูกตัดกองรวมกันมากกว่า 20 ท่อน ใกล้กับพบยางรถยนต์และรถจักรยานยนต์ กองยู่หลายจุดทั่วบริเวณสวน พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึด มีดพร้า จอบ และไฟแช็ก อยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างขวาของนายไชยรัตน์ฯ

จากการตรวจสอบพบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าบ้านโฮ้ง ถูกบุกรุก เนื้อที่ จำนวน 15 ไร่ 1 งาน 61 ตารางวา คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 1,051,131.51. บาท พร้อมกับแจ้งข้อหา ก่อสร้าง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต”และยึดถือ ครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพ ป่าสงวนฯ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทากาศ จ.ลำพูน

ด้าน พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส.เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีกลุ่มบุคคลได้ทำการบุกรุกแผ้วถางป่าในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าบ้านโฮ่ง ท้องที่ ต.เหล่ายาว อ.บ้านโฮ่ง เพื่อยึดถือครอบครองที่ดินเป็นของตนเอง โดยทำการเพาะปลูกไม้ยืนต้นและเป็นไม้เศรษฐกิจ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.กันต์พงษ์ สุวรรณศรี สว.กก.4 บก.ปทส. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส.ตรวจสอบข้อเท็จจริง ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา พบพื้นที่ป่าถูกบุกรุกเป็นพื้นที่บริเวณกว้างอยู่ข้างลำห้วยหญ้าแจ้ ในแปลงป่าที่ถูกบุกรุกพบมีการปลูกต้นมะม่วงขึ้นอยู่ทั่วทั้งแปลง และพบมีการขยายพื้นที่ปลูกมะม่วงเพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่เดิม ด้วยการตัดฟัน ตัดโค่นต้นไม้ซึ่งมีอยู่เดิม และแผ้วถางป่า พบมีการนำเอายางล้อรถยนต์ และยางล้อรถจักรยานยนต์นำมาสวมครอบตอไม้ที่ได้ตัดฟัน หรือโค่นล้มลงแล้ว จุดไฟเผาทำลายตอไม้นั้นเสียแต่ไม่พบคนบุกรุก ต่อมากันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. เข้าตรวจสอบ พบมีการขยายพื้นที่ปลูกมะม่วงเพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่เดิมด้วยการตัดฟันตัดโค่นต้นไม้ซึ่งมีอยู่เดิมโดยกำเนิดตามธรรมชาติมีลักษณะเป็นผืนป่าอยู่ มีลักษณะเป็นการแผ้วถางป่า เผ่าป่า พบมีการนำเอายางล้อรถยนต์ และยางล้อรถจักรยานยนต์นำมาสวมครอบตอไม้ที่ได้ตัดโค่น จุดไฟเผาทำลายตอไม้ แต่ก็ยังไม่พบตัวผู้กระทำความผิด

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกเป็นหลายชุด ทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์แบบวิบาก ออกลาดตระเวนไปตามป่า พบผู้ต้องหา กำลังสุมไฟ เผาตอไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวเข้าจับกุม นายไชยรัตน์ฯ และพาตัวชี้แนวเขตที่ดินได้ครอบครอง พร้อมกับสารภาพว่า ได้เข้ามาทำการแผ้วถางป่าและเผาป่า ตัดหญ้าที่ขึ้นอยู่ในแปลงที่ดินแปลงดังกล่าวและ ได้ตัดโค่นต้นไม้ แผ้วถางป่าเพิ่มจากที่ทำกินเดิมเพื่อขยายที่ทำกิน ซึ่งทำมาทำไร่บริเวณดังกล่าวนานประมาณ 2 ปีแล้ว

ให้คะแนนบทความนี้

กรุณาเลือกจำนวนดาว

คะแนนค่าเฉลี่ย 0 / 5. จำนวนผู้ให้คะแนนโวต 0

ยังไม่มีผู้ให้คะแนนบทความนี้

Sending
User Review
0 (0 votes)

Leave a Reply

Translate »