วันนี้ (5 สิงหาคม 2564) เวลา 9.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) หารือแนวทางการพัฒนากฎหมายเพื่อเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ภายในปี 2565 และการขับเคลื่อน “มาตรการกำกับการนำเข้าเศษพลาสติก” ร่วมกับ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (นายอรรถพล เจริญชันษา) ณ ห้องประชุมชั้น 20 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเตรียมการนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์ ครั้งที่ 2/2564 ต่อไป
นายวราวุธ ศิลปอาชา กล่าวในที่ประชุมว่า ในช่วงที่ผ่านมา ปัญหาขยะพลาสติกนับได้ว่าเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบทั้งต่อระบบนิเวศและความรู้สึกของประชาชน อย่างเช่นกรณีของ “น้องมาเรียม” ที่เคยเกิดขึ้น ดังนั้น จึงมีเหตุผลความจำเป็นทั้งในด้านข้อมูลผลกระทบต่อระบบนิเวศที่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ และข้อมูลปริมาณขยะพลาสติกที่เข้าสู่บ่อฝังกลบ (Landfill) ที่จะต้องผลักดันไปสู่การพัฒนากฎหมายเพื่อเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว โดยเฉพาะถุงพลาสติกแบบบางที่มีขนาดน้อยกว่า 36 ไมครอน หลอดพลาสติก และแก้วพลาสติกแบบบาง รวมถึงจะต้องเพิ่มการสร้างความรับผิดชอบจากผู้ผลิต และการสร้างวินัยให้กับผู้บริโภคควบคู่กันไปด้วย
ประเทศไทยได้กำหนด Road Map การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561-2573 โดยกำหนดเป้าหมายที่สำคัญ 2 ประการ ได้แก่ 1) การลด เลิกใช้พลาสติกเป้าหมาย ด้วยการใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดให้มีการเลิกใช้ พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ผสมสารอ๊อกโซ่ (Oxo) และ ไมโครบีดส์ ภายในปี 2562 และกำหนดให้มีการเลิกใช้ ถุงพลาสติกหูหิ้วแบบบางน้อยกว่า 36 ไมครอน กล่องโฟมบรรจุอาหาร แก้วพลาสติกแบบบางน้อยกว่า 100 ไมครอน และหลอดพลาสติก ภายในปี 2565 และ 2) การนำขยะพลาสติกเป้าหมายกลับมาใช้ประโยชน์ 100% ภายในปี 2570
นอกจากนี้ ในส่วนของการกำหนดการนำเข้าเศษพลาสติกพบว่าปัจจุบัน ประเทศไทยมีการนำเข้าเศษพลาสติก ในปี 2564 (เดือนมกราคม-มิถุนายน 2564) รวมปริมาณ 71,182 ตัน กรมควบคุมมลพิษจึงได้เตรียมการเสนอมาตรการกำกับการนำเข้าเศษพลาสติก ต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติในการประชุมที่จะมีขึ้นครั้งต่อไป โดยกำหนดการนำเข้าเศษพลาสติกในปี 2564 ในปริมาณ 250,000 ตันต่อปี หรือประมาณ 50% ของกำลังการผลิตทั้งหมดของโรงงาน จากปีฐาน 2563 ร่วมกับการใช้เศษพลาสติกภายในประเทศในปริมาณ 250,000 ตันต่อปี และกำหนดให้มีการลดปริมาณการนำเข้าเศษพลาสติกปีละ 20% หรือประมาณ 50,000 ตัน และห้ามนำเข้าเศษพลาสติก 100% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 โดยสนับสนุนการใช้เศษพลาสติกภายในประเทศเพื่อเป็นวัตถุดิบในโรงงาน 100% ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับนโยบายขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยระบบโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy)