คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนฯ ย่าน ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าเชียงใหม่ ขอให้เร่งรัดการตรวจสอบ ผู้อำนวยการโรงเรียน หลังมีพฤติกรรมบริหารงานไม่โปร่งใส จนถูกไปช่วยราชการ แต่ไม่มีความคืบหน้า นักเรียนได้รับผลกระทบหนักหลังโรงเรียนเปิดเทอม ทั้งเงินชดเชยที่รัฐบาลจัดสรรเงินงบประมาณชดเชยเด็กนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ให้เด็กนักเรียนในโรงเรียนเกือบ 300 คน ผู้ปกครองหลายรายทนไม่ไหว ต้องย้ายบุตรหลานของตนไปเรียนที่อื่น
จากกรณีกรณี ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ย่าน ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ มีตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน และ ตัวแทนคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนฯ และกลุ่มผู้ปกครองของเด็กนักเรียน นำป้ายมาชูป้ายประท้วงเพื่อขับไล่ผู้บริหาร โดยผู้ปกครอง ต่างสงสัยการบริหารเงินค่าอาหารกลางวัน อาจจะกระทำไม่ถูกต้อง ได้นำหลักฐานการเงิน และเอกสารทางราชการต่างๆของสถานศึกษาของโรงเรียนฯที่สงสัยว่า จะเข้าข่ายการทุจริตหรือไม่ เช่นเรื่องบัญชีการเงิน และที่สำคัญเรื่องที่ผู้บริหารโรงเรียนได้นำทรัพย์สินภายในในโรงเรียน เอาไปเป็นทรัพย์สินของตัวเอง เช่นตัดไม้ในโรงเรียน เอาไปไว้ที่บ้านตัวเอง สภาพห้องน้ำที่สกปรก และน้ำไม่ไหล โรงอาหารที่ช่างก่อสร้างปูกระเบื้องอยู่ซึ่งเป็นเงินที่ขอรับบริจาคจากผู้ปกครอง และตู้กดน้ำเด็กอนุบาลที่น้ำขุ่นมีตะกอน และโครงการอาหารกลางวัน ที่มีการทำอาหารซ้ำๆจนเด็กนักเรียนไม่อยากกินข้าว ต้องกลับไปกินข้าวที่บ้านหลังเลิกเรียน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา จนมีคำสั่งพร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงผู้บริหารโรงเรียน คนดังกล่าว พร้อมมีคำสั่งให้ย้าย ไปโรงเรียนแห่งหนึ่งย่าน อ.หางดง และถูกชาวบ้านและคณะกรรมการสถานศึกษาฯดังกล่าวขับไล่ จนต้องมาช่วยราชการอยู่ที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 4
ล่าสุด นางสาวพวงเพชร เจนเซ่น คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนดังกล่าว ย่าน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ นำเอกสารต่างๆที่เกี่ยวกับปัญหาของโรงเรียนฯ ยื่นถึงผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ผ่าน ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอรับการช่วยเหลือให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ด้วย หลังเกิดปัญหาที่ โรงเรียนฯ แล้วเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทาง ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 4 มีคำสั่งการตั้งกรรมการสอบสวน คือ ให้นิติกรมาสอบถามว่า ใครเป็นผู้ให้ข้อมูลของโรงเรียนกับผู้สื่อ ซึ่ง ผิดวัตถุประสงค์ของผู้ปกครองนักเรียนที่ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการให้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 4 มาตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ รายดังกล่าว ว่า จะปฏิบัติหน้าที่แล้วได้กระทำความผิดอะไรบ้าง และมอบหมายงานให้คุณครู โรงเรียนฯที่ไม่มี ผู้อำนวยการ ทำหน้าที่อะไรบ้าง เพราะเด็กนักเรียนเปิดเทอมแล้วยังไม่ได้รับมอบหมายงานอะไรเลย นอกจากนี้โรงเรียนเปิดเทอม มาเกือบสัปดาห์แล้ว แต่สภาพโรงเรียน ยังไม่เรียบร้อย ซึ่งก่อนเปิดเทอมผู้ปกครองนักเรียน ต้องมาช่วยเก็บกวาดโรงเรียน ล้างห้องน้ำกันเอง อาศัยเทศบาล ต.หนองผึ้งมาช่วยขนขยะ ในโรงเรียน จนถึงวันนี้ยังไม่เรียบร้อย ผู้ปกครองต้องผลัดกันมาเก็บกวาดในโรงเรียน จากเกรงว่าจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคต่างๆ เนื่องจากโรงเรียนแห่งนี้มีเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึง ป.6 รวมกว่า 300 คน ผู้ปกครองหลายรายทนไม่ไหว ต้องย้ายบุตรหลานของตนไปเรียนที่อื่น ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากทางโรงเรียนไม่มีผู้บริหารที่มีอำนาจสั่งการสะสางปัญหาดังกล่าวได้ จึงเกิดผลกระทบกับเด็กนักเรียนมนที่สุด
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ โรงเรียนดังกล่าว พบนายพงษ์ศักดิ์ ไชยชนะ รอง ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ เปิดเผยว่า การบริหารจัด การอาหารกลางวันเด็ก กำหนดราคาไว้ที่ 1 หัว 20 บาท จ้างเหมาให้แม่ครัวมาทำอาหารให้เด็กที่โรงเรียน ให้ครูดูแลเรื่องอาหารให้ครบ 5 หมู่ มีขนมและผลไม้ คือให้มีทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน
ด้านผู้ปกครองนักเรียน บอกว่า ปัญหาอีกเรื่องคือ เงินชดเชยที่รัฐบาลจัดสรรเงินงบประมาณชดเชยเด็กนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จำนวน 200 บาท ต่อ 1 คน ช่วงหยุดการเรียนที่ผ่านมา ผู้ปกครองก็ยังไม่ได้รับ สอบถามทางโรงเรียน บอกว่า เรื่องนี้อยู่ที่ ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ และยังไม่ได้ขอสรุปเรื่องนี้เลย จนเปิดเทอมก็ยังไม่ได้รับเงินก้อนนี้เลย ซึ่งเงิน 200 บาท ถือว่ามีค่ามาก เพราะจำเป็นต้องนำเงินไปซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนต่างๆของลูกตน ที่จะต้องซื้ออีกจำนวนมากในช่วงเปิดเทอมปีการศึกษานี้ ผู้ปกครองบางรายมีลูกมาเรียนที่นี่ถึง 3 คน เงินจำนวนนี้จึงมี่ค่ามาในช่วงสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยสะสางเรื่องนี้ให้ด้วย เพราะเงินทั้งหมดมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นบาท 000000000จบ000000000
