ตำรวจปทส จับหนุ่มลำพูนตกงานจากโควิดบุกรุกป่า เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ธิ แม่ตีบ แม่สาร ท้องที่บ้านห้วยไซเหนือ ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูนแบ่งขายนายทุนทำรีสอร์ท พร้อมของกลางไม้หวงห้าม 11 ท่อนและอุปกรณ์ซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้ใช้ในการกระทำความผิด โดยมีการย้ายหลักหมุดเขตป่าไม้ เจ้าหน้าที่แจ้ง 4 ข้อหาก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านธิดำเนินคดี
กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.33 เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 สปป.3 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธร สภ.บ้านธิ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.บ้านธิ สนธิกำลังเข้าตรวจค้น พื้นที่ป่า เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ธิ แม่ตีบ แม่สารท้องที่ห้วยไซเหนือ ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน และจับกุม นายยอดชาย เลาะมู อายุ 50 ปี ชาวบ้านต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ขณะกำลังใช้จอบขุดดินฝังไม้ของกลางเพื่อทำลายหลักฐาน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีพื้นที่ป่าถูกบุกรุก ประมาณ 4 ไร่ และมีการย้ายหมุดเขตป่าไม้ ใกล้กันพบไม้หวงห้าม เช่นไม้แดงแดง,ไม้ติ้วรวม 11 ท่อน อุปกรณ์ตัดไม่เช่นเลื่อยมือ เป็นต้นก่อนที่เจ้าหน้าที่จะยึดของกลางทั้งหมดไว้พร้อมแจ้ง 3 ข้อหา ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต,มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และยึดถือ ครอบครอง ก่อสร้าง หรือเผาป่า ทำด้วยประการใดให้เป็นการทำลาย อันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านธิ ดำเนินคดี
ด้าน พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผู้กำกับการ 4 บก.ปทส. เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่ามีบุคคลได้เข้ามาทำการบุกรุกป่าในพื้นที่ดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รอง ผกก.4 ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้พ.ต.ต.ชานนท์ รัตนประทีป สว.กก.4 บก.ปทส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.4 บก.ปทส.ลงพื้นที่ตรวจสอบ และจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด จากการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่าตกงานจากวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา หางานรับจ้างทั่วไปก็ไม่มีใครจ้าง จึงบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำการเพาะปลูก แต่มีนายทุนติดต่อขอซื้อไว้เกงกำไร บางรายซื้อไว้เพื่อรอก่อสร้างทำรีสอร์ท ตนเห็นว่ามีรายได้ดีจึงบุกรุกพื้นที่ป่าไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข่าวและตรวจยึดพื้นที่ป่าคืนทั้งหมด