24 พฤศจิกายน 2568 นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียเทศบาลเมืองแพร่ ซึ่งเป็นโครงการสำคัญในการยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมของชุมชนเมือง เดิมนั้น เขตเทศบาลเทศบาลเมืองแพร่ ไม่มีการบำบัดน้ำเสีย ปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำยมไปเลย แม้แต่น้ำเสียในโรงพยาบาลแพร่ ซึ่งมีบ่อบำบัด บ่อบำบัดก็มีไม่เพียงพอ จนมีโครงการ ก่อสร้างศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำเทศบาลเมืองแพร่ โดยได้รับงบประมาณ 99,600,000.00 บวท เพื่อก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย และอาคารควบคุมโครงการดังกล่าวมีกำหนดแล้วเสร็จเดิมในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้นในจังหวัดแพร่เมื่อช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้การก่อสร้างต้องหยุดชะงัก และมีความจำเป็นต้องปรับแก้แบบบางส่วน ส่งผลให้ต้องขยายสัญญาก่อสร้างออกไปจนถึงวันที่ 20 มกราคม 2569ด้านความคืบหน้าของงานก่อสร้างภายนอกพื้นที่โครงการ ขณะนี้ดำเนินการแล้วเกือบสมบูรณ์ เหลือเพียงบริเวณ สามแยกบ้านใหม่ ที่ต้องดำเนินการเชื่อมท่อ คสล. ของเทศบาลเข้ากับระบบบำบัด ทั้งนี้จุดเชื่อมน้ำเสียเข้าสู่ระบบรวมมีทั้งหมด 4 จุด ได้แก่ 1. เส้นโรงเรียนพิริยาลัย + ในเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำเสียสูงที่สุด 2. บริเวณโรงเรียนป่าไม้เก่า 3. สวนสาธารณะประตูมาร 4. ลำรางข้างวิทยาลัยเทคนิค มุ่งสู่หลังวัดบุญรักษาสำหรับงานด้านระบบบำบัด ขณะนี้มีความคืบหน้าแล้วประมาณ 70% โดยยังต้องติดตั้งเครื่องจักรและเครื่องเติมอากาศเพิ่มเติม หากดำเนินการแล้วเสร็จ ระบบจะสามารถรองรับน้ำเสียได้ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ก่อนปล่อยน้ำที่ผ่านการบำบัดลงสู่แม่น้ำยมอย่างมีมาตรฐานและปลอดภัยโครงการนี้เป็นกลไกสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตเมือง และจะช่วยลดปัญหาน้ำเสียในระยะยาว พร้อมขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันกำกับดูแลการดำเนินงานให้แล้วเสร็จตามแผนที่ปรับปรุงใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้.นายแพทย์ ทศพร กล่าวต่อไปว่า ต่อไปนี้น้ำที่ปล่อยลงสู่แม่น้ำยม จะเป็นน้ำที่มีคุณภาพ เกิดความปลอดภัยต่อผู้ที่ใช้น้ำจากแม่น้ำยม ที่อยู่ใต้ลงไปต่อไป จะผลักดันเร่งรัดงบประมาณ สร้างระบบบำบัดน้ำเสียในโรงพยาบาลใหม่ ให้น้ำที่ปล่อยจากโรงพยาบาลมีความปลอดภัย ก่อนที่จะปล่อยลงสู่ระบบน้ำเสียของเทศบาลเมืองแพร่ และแม่น้ำยมต่อไป
