
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 25 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานในการประชุมได้มีการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ได้ชี้แจงว่าคณะกรรมาธิการฯได้มีการประชุมทั้งหมด 39 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.66 – 19 ม.ค.68 รวม 480 วัน โดยศึกษาปัญหาผลกระทบด้านต่างๆ ทั้งด้านสุขภาพ ด้านสังคม ด้านกฎหมาย และด้านเศรษฐกิจ
โดยมีบทสรุป 3 แนวทาง คือ 1.บุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน (Heated tobacco Products) เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย 2.ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน (Heated tobacco products) เป็นสิ่งที่ถูกควบคุมตามกฎหมาย และ 3.บุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน (Heated Tobacco Products) เป็นสิ่งที่ถูกควบคุมตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ส.ส.ส่วนทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ต่างอภิปรายไปในทิศทางเดียวกัน โดยระบุว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคตินและสารอื่นที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ในการประชุมวันนี้นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สส.แพร่ เขต1พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร
ได้ขอ อภิปรายว่าตนได้รับการร้องเรียนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้ามาตลอดเวลาเจอนักเรียนและผู้ปกครอง เคยไปเดินแถวสุขุมวิทพบการขายบุหรี่ไฟฟ้าเต็มไปหมด ตนเดินทางไปที่โรงพยาบาลสตึก จ.บุรีรัมย์ เยี่ยมนักเรียน ม.2 ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วปอดอักเสบต้องนอนโรงพยาบาลมีอยู่ 6-7 คน บางคนต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ไปที่สถานีตำรวจภูธรสตึกก็ทราบการจับบุหรี่ไฟฟ้ามีการขายอยู่ใกล้ใกล้โรงเรียน เด็กบางคนบอกว่าหัดสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพราะเห็นพี่สูบเท่ห์ดีก็เลยไปขอสูบด้วย แล้วหลังจากนั้นก็ใช้วิธีหุ้นกับเพื่อนซื้อบุหรี่ไฟฟ้าแล้วก็มาแบ่งกันสูบ แอบสูบในห้องน้ำโรงเรียนบ้าง เลิกเรียนแล้วก็ไปแอบสูบที่บ้านเพื่อนบ้าง แล้วก็ซื้อน้ำกระท่อมไปดื่มด้วย คือน้ำกระท่อมกับบุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นของคู่กัน
นพ.ทศพร อภิปรายอีกว่า ยังไม่เห็นคนไหนพูดถึงข้อดีของบุหรี่ไฟฟ้าเลย แต่มีกรรมาธิการบางท่านโลกสวย บอกว่าถ้าทำบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมายจะได้ภาษีปีละเป็นหมื่นล้าน ท่านทราบไหมครับเวลาคนที่เป็นมะเร็งปอดอุดกั้นแล้วใช้เครื่องช่วยหายใจนอนอยู่ในโรงพยาบาล จะตายก็ตายไม่ได้ จะอยู่ก็หายใจไม่ออก มันเจ็บปวดมันทรมานทั้งตัวเองทั้งญาติ แล้วใช้ค่ารักษาพยาบาลมากมายขนาดไหน ข้ออ้างภาษีบุหรี่ไฟฟ้าที่เก็บได้มาก็ไม่เท่ากับค่ารักษาพยาบาลที่รัฐบาลหรือประชาชนต้องจ่ายในการรักษา
โดยในที่ประชุมกรรมาธิการเอง บางคนบ่นว่าทำไมเชิญแต่คนไม่เห็นด้วยกับการบุหรี่ไฟฟ้ามา เชิญแต่หมอ เชิญแต่นักเรียนที่ไม่เห็นด้วย ทำไมไม่เชิญพวกที่เห็นด้วยกับบุหรี่ไฟฟ้ามา เพราะความจริงมันไม่ค่อยมีคนที่เห็นด้วยกับบุหรี่ไฟฟ้าเลย ไปดูการประชุมหลายครั้งคุณหมอทั้งหลายมาพูดถึงโทษถึงความร้ายแรงของบุหรี่ไฟฟ้าก็จะลุกหนีกันหมด
ผมข้องใจภาคผนวกในรายงานฉบับนี้ ผมไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะ ถ้าไปอ่านให้ดีแนวทางที่ 2 และ 3 มันจะชักจูงประชาชนให้เข้าใจผิด คือบอกว่ายาสูบแบบให้ความร้อนเป็นสิ่งที่ถูกควบคุมตามกฎหมาย เป็นการใช้วาจาซ่อนเร้น พูดจริงๆก็คือจะบอกว่าจะทำให้มันถูกกฎหมายนั่นแหละ ใช้คำว่าถูกควบคุมตามกฎหมาย แสดงว่าต่อไปนี้จะออกกฎหมายให้ถูกกฎหมายแล้ว
ผมอยากถามว่าคนที่เห็นด้วยกับแนวทางให้บุหรี่มันถูกกฎหมายเป็นทาสที่สูบบุหรี่หรือเปล่า เป็นคนสูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือเปล่า กรรมาธิการฯกี่คนที่มีความสัมพันธ์กับอาชีพยาสูบ หรือปลูกยาสูบหรือเปล่า หรือเกี่ยวข้องกับชาวไร่ยาสูบอย่างไร มีหมอในกรรมาธิการฯ 6 คนไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่ 2 และ 3 เลย
ผมฝากไปยังรัฐบาล เรามีอยู่ทางรอดเดียว ต้องไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาถูกกฎหมาย มีแต่จะต้องเข้มงวดกับกฎหมายที่มีอยู่ หรือออกกฎหมายที่เข้มงวดกับบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น ทุกวันนี้เด็กไทยเกิดน้อยอยู่แล้วเราต้องป้องกันให้ลูกหลานของเราพ้นภัย อย่าให้มีบุหรี่ไฟฟ้ามาทำร้ายเด็กไทย ทางรอดของเด็กไทยมีอย่างเดียวเราต้อง “แบนบุหรี่ไฟฟ้า” ขอบคุณครับ”////