วันที่ 27 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 18.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.รัฐพล น้อยช่างคิด รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่จัน พ.ต.ท.ภูริวัฒ รุจิรัฐภาส รอง ผกก.ป.สภ.แม่จัน นำโดย พ.ต.ต.ศักดิ์ชาย รีอินทร์ สวป. และ ร.ต.อ.นาวี เตชะวงศ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจท่าข้าวเปลือก รวม 5 นาย ได้ตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ณ ถนนบายพาสตะวันออก หมู่ 10 ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย เพื่อป้องกันการลำเลียงยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และบุคคลต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
กำลังปฏิบัติหน้าที่ได้พบเห็นรถกระบะ 2 คันขับขี่ตามกันมาทางเจ้าหน้าที่จึงได้เรียกตรวจสอบจากการตรวจสอบพบว่าคันที่ 1 เป็นรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีเทา ทะเบียน ผธ 6745 เชียงใหม่ ซึ่งวิ่งมาจากอำเภอเชียงแสน แต่คนขับกลับเร่งความเร็วหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามและควบคุมตัวได้สำเร็จ พบคนขับคือนายบุญมี หงษ์คำ อายุ 28 ปีชาวตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จากการตรวจสอบเอกสารไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่พบว่ามีการปลอมแปลงป้ายทะเบียนรถ เมื่อตรวจสอบในระบบพบว่าหมายเลขทะเบียนไม่ตรงกับที่ลงทะเบียนไว้ นายบุญมีให้การรับสารภาพว่าได้สลับป้ายทะเบียนเพื่อเลี่ยงการตรวจสอบ และยังพบบุคคลต่างด้าวอาศัยมากับรถอีก 11 คน
ส่วนคันที่ 2 เป็นรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ สีเทา ทะเบียนป้ายแดง ล 4686 กรุงเทพฯ พบคนขับคือนายสมหมาย จะหา อายุ 31 ปี ชาวตำบลห้วยชมภูอำเภอเมืองจังหวัดเชียงราย เป็นคนขับรถ จากการตรวจสอบพบผู้โดยสารเป็นบุคคลต่างด้าว 12 คนซึ่งเดินทางเข้ามาถูกกฎหมายด้วย Border Pass แต่ป้ายทะเบียนรถมีการปลอมแปลงเช่นกัน นายสมหมายให้การยอมรับว่ามีการสับเปลี่ยนป้ายทะเบียนเพื่อเลี่ยงการตรวจ
โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า”ใช้หรืออ้างเอกสารราชการปลอม,ขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงาน”
จากการสอบสวน ทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองใช้รถยนต์ส่วนบุคคลนำพาบุคคลต่างด้าว รวม 23 ราย ที่มี Border Pass มาจากชายแดนอำเภอแม่สาย เข้ามาในราชอาณาจักร ระหว่างเดินทางมีการสลับป้ายทะเบียนเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
