เมื่อวันที่ 3 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้แจ้งจากนายอดุล ดินแดง ชาวบ้าน ม.4 ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ ว่ามีครอบครัวหนึ่ง อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ชีวิตค่อนข้างสุดแสนเศร้า ทั้งสามีและภรรยา ป่วยด้วยโรคมะเร็ง มีเพียงลูกสาวคอยดูแลอย่างใกล้ชิด จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบครอบครัวดังกล่าวอาศัยอยู่ภายในบ้านชั้นเดียว ไม่มีเลขที่ สภาพเก่าทรุดโทรม ปลูกติดถนนสาย บ้านในสระ-ท่าเลน โดยมีนายหมู่หำหมาด สามารถ อายุ 54 ปี บ้านเดิมเลขที่ 91 ม.4 ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ นอนป่วยอยู่บนที่นอน สภาพผอมแห้ง เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก โดยมีนางสาวอารีย์ (ภรรยา) สามารถ อายุ 54 ปี และนางสาวสุพัตรา (ลูกสาว)สามารถ อายุ 23 ปี คอยดูแลอย่างใกล้ชิด โดยมีเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องแวะเวียนมาเยี่ยมให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง
นางสาวสุพัตรา (ลูกสาว) เล่าเรื่องราวของชีวิตที่สุดเศร้าให้ฟังว่า ครอบครัวของตนไม่มีบ้านของตัวเอง เนื่องจากพ่อไปจำนอง เมื่อหลายปีก่อนจนหลุดจำนอง ซึ่งบ้านหลังที่อาศัยปัจจุบัน เป็นของญาติใจดี ให้อยู่ โดยพ่อกับแม่ ทั้ง 2 คน ป่วยด้วยโรคมะเร็ง แม่ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก มาตั้งแต่ ปี 59 แต่ยังช่วยเหลือตัวเองได้ ทำงานบ้านเล็กๆน้อยได้ ส่วนพ่อ ป่วยมะเร็งปอด รู้เมื่อปลายปี 63 อาการทรุดอย่างรวดเร็ว ภายในระเวลาไม่นานก็ต้องนอนอยู่กับที่ ร่างกายซูบผอม โชคดีก่อนที่พ่อจะทรุดหนัก ตนเรียนจบก่อน และมีงานทำพอที่จะนำเงินมาจุนเจือครอบครัวได้บ้าง แต่ก็ไม่เพียงพอ กับค่าใช้จ่าย ทั้งค่าแพมเพิส ของพ่อกับแม่ เดือนละ 2-3 พันบาท และค่าพาพ่อแม่ไปรักษา ตามหมอนัด ค่ากินอยู่ เนื่องจากอยู่ในระหว่างทดลองงานยังไม่บรรจุเป็นพนักงาน เงินเดือนไม่มากและไม่รู้ว่าวันใดนายจ้างจะให้ออก เพราะทำงานได้ไม่เต็มที่ ต้องหยุดงานพาแม่ไปหาหมอบ้าง ดูแลพ่อบ้าง วันไหนที่แม่อาการทรุด แต่ตนก็ไม่ท้อกับชะตาชีวิตที่ประสบอยู่
นางสาวสุพัตรา กล่าวด้วยว่า สำหรับพี่ชายคนเดียว ก็ถูกคดี เข้าไปรับโทษอยู่ในคุก แต่ในความโชคร้าย ที่ถาโถมเข้ามา ก็ยังมีความโชคดี อยู่บ้างที่รัฐบาลมีโครงการ คนละครึ่ง และเราชนะ ตนได้ลงทะเบียนและนำเงินดังกล่าวไปใช้จ่ายเป็นค่าแพมเพิส ค่ากับข้าว ค่ายาและอื่นๆที่จำเป็นสำหรับพ่อกับแม่ที่กำลังป่วยทำให้ตนประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก
ขณะที่นายอดุล ดินแดง เพื่อนบ้าน กล่าวว่า หลังจากเห็นความทุกข์ยากของครอบครัวนี้ ก็รู้สึกหดหู่ ที่สามีและภรรยา ต้องมาป่วยด้วยโรคมะเร็งพร้อมกัน มีลูกสาวนิสัยดี กตัญญู คอยดูแล อย่างใกล้ชิด ส่วนบ้านที่อาศัยไม่แข็ง มีลูกผู้หญิงกำลังเจ้าสู่วัยรุ่น เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เห็นแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร จึงแจ้งผู้สื่อข่าวขอให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงสื่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความทุกข์ได้ไม่มากก็น้อย
สำหรับผู้ใจบุญ ที่มีความประสงค์ จะช่วยเหลือครอบครัว นายหมู่หำหมาด สามารถ ติดต่อสอบถามได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 063-8854379 นางสาวสุพัตรา(ลูกสาว) ชื่อเล่นน้องบี หรือบัญชีเลขที่ 573-281740-8 ธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี นายหมู่หำหมาด สามารถ
ภาพ – ข่าว ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง จ.กระบี่
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา
