เวลาประมาณ 15.58 น. วันที่ 5 ส.ค. 67 ร.ต.อ.ทรงวิทย์ แสนยาวุธ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ที่หมู่บ้านห้วยทราย ม.16 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.โสภน ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมือง ทราบก่อนจะ ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย และแพทย์ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบ ร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือนางเสงี่ยม กุณณา อายุ 71 ปี ที่อยู่ 209 ม.16 ซ.6 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย สภาพผู้ตายนอนตะแคงขวา พบร่องรอยการต่อสู้ และร่องรอยรองเท้าเหยียบคราบเลือด ร่องรอยถูกทำร้ายทุบด้วยของแข็ง ตามบริเวณกะโหลกหน้าผาก และบริเวณท้ายทอย หลังหูซ้าย หน้าอก และลำตัวด้านหน้า มีรอยฟกซ้ำ
ในเบื้องต้นทราบว่า สร้อยคอทองคำ 1 เส้น ได้หายไป ส่วนสายข้อมือทองคำ 1 เส้น และแหวนทองคำ ยังอยู่ที่ศพของผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานทำการเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุ ก่อนนำร่างของผู้เสียชีวิตส่งตรวจที่นิติเวช รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อหาสาเหตุการณ์เสียชีวิตอย่างชัดเจนต่อไป
จากการสอบถามนายประสิทธิ์ นานุกูล อายุ 58 ปี น้องชายผู้ตาย เผยว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ผู้ตายยังเดินทางไปร่วมพิธีศพของญาติที่บ้านป่าไผ่ ม.4 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย ห่างจากบ้านที่อยู่ประมาณ 10 กม. และกลับมาบ้านในช่วงเย็น จนต่อมาวันที่ 5 ส.ค. ทางญาติผิดสังเกตุเพราะผู้ตายไม่เดินทางไปร่วมพิธีศพของญาติ ซึ่งจะมีพิธีฌาปณกิจศพในวันที่ 5 ส.ค. จึงไปตามหาที่บ้าน เวลาประมาณ 15.00 น. ได้ไปยืนเรียกที่หน้าบ้านอยู่นาน แต่พี่สาวไม่ตอบ จึงโทรไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยดู โดยพบว่าประตูด้านหน้าบ้านชั้น 2 ล็อคประตูจากด้านใน จึงให้เพื่อนบ้านปีนเข้าทางหน้าต่างห้องของหลานซึ่งอยู่ใกล้ประตูเข้าบ้าน พบว่าพี่สาวเสียชีวิตแล้ว โดยที่ทีวียังคงเปิดทิ้งไว้
ในบ้านพบร่องรอยการต่อสู้ บริเวณที่นอนกลางบ้าน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุทราบว่ามีสร้อยคอทองคำของพี่สาวหายไป มีร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้าน ส่วนเงินที่บริเวณลิ้นชักหัวเตียง ซึ่งมีเงินอยู่ข้างในนั้น 20,000 บาท คาดว่าคนร้ายเปิดกุญแจไม่ได้ จึงไม่ได้เงินไปด้วย ตอนนี้ยังต้องรอการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์ และกองพิสูจน์หลักฐาน แต่พิธีศพทางญาติจะนำไปประกอบพิธีที่บ้านป่าไผ่ ม.4 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย
ด้านนายลวน พิระบรรณ์ ผญบ.ห้วยทราย ม.16 กล่าวว่า ผู้ตายอาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าวเพียงลำพัง ญาติพี่น้องส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัด ข้างในซอยก็มีเพียงบ้านของคนตายเพียงหลังเดียว ไม่มีใครได้ยินเสียงตอนเกิดเหตุ ตอนนี้ยังไม่มีผู้ต้องสงสัย และไม่มีใครหายออกไปจากหมู่บ้าน จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าคนตายถูกของแข็งทุบที่บริเวณหน้าผาก และบริเวณท้ายทอย รวม 2 แผล
“ครั้งนี้ถือเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ครั้งแรกของหมู่บ้าน ที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุรุนแรงแบบนี้มาก่อน หลังชาวบ้านทราบข่าวก็ต่างรู้สึกขวัญเสียกับเหตุการณ์ดังกล่าว ตนจึงได้ประกาศเตือนให้ลูกบ้านเพิ่มความระมัดระวัง และไม่สวมใส่ทรัพย์สินที่มีค่าออกจากบ้าน เพราะอาจล่อใจคนร้ายมาก่อเหตุแบบครั้งนี้” ผญบ. กล่าว
นายมงคล อิ่นสุวรรณ อายุ 56 ปี เพื่อนบ้านที่พบศพคนแรก เล่าว่า เวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมาเพื่อนบ้านที่พบศพคนแรก ทางน้องชายของคนตายได้โทรหาตนให้ไปช่วยเรียกพี่สาวที่อยู่ลำพังในบ้าน เมื่อพวกตนไปถึงก็พบประตูถูกล็อคจากด้านใน ตนจึงอาสาปีนหน้าต่างห้องหลานของคนตายเข้าไปดู เมื่อเปิดเข้าไปด้านในก็พบผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่กลางห้องโถง มีเลือดจากการโดนทำร้ายตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวนมาก จึงรีบไปเปิดประตูให้คนที่อยู่ด้านนอกเข้ามา แต่ตนก็ไม่ได้เข้าไปดูใกล้ๆ เพราะเกรงจะไปรบกวนพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ
สำหรับที่เกิดเหตุ เป็นซอยทางเข้าป่าสุสานของหมู่บ้าน ผู้ตายอาศัยอยู่ภายในซอยเพียงลำพังหลังเดียว ส่วนลูก 2 คน ไปอาศัยอยู่ที่ จ.มหาสารคาม ส่วนหลานสาวไปอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งนานๆทีจะกลับมาบ้าน ผู้ตายยังมีสุขภาพแข็งแรง ทำอาหารกินเอง ออกไปพบปะพูดคุยเพื่อนบ้านประจำ รอบบ้านที่เกิดเหตุพบเป็นสวนผลไม้ สวนยางพารา และถนนในซอยดังกล่าวสามารถทะลุออกไปได้หลายทิศทาง
โดยในวันนี้ 7 ส.ค.67 เจ้าหน้าที่ยังไม่พบผู้ต้องสงสัย มีเบาะแสว่าในพื้นที่มีชายอายุประมาณ 30 ปีที่มีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ได้หายออกไปจากหมู่บ้าน ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 อาทิตย์ ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นผู้ก่อเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุหรือไม่ ซึ่งทางชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงรายได้ลงพื้นที่ เพื่อสอบพยานที่เห็นเหตุการ และตามหากลุ่มเป้าหมาย ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการสะเทือนขวัญในครั้งนี้