วันที่ 3 ส.ค.67 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย เขต 2 นายสถาพร เที่ยงธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม นายวิเชียร สุขสร้อย เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายอภินันท์ ธรรมเสนา ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) และคณะ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่บ้านห้วยหินลาดใน ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย โดยมี นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ร่วมด้วย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามการจัดการพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2553 เรื่องนโยบายฟื้นฟูวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยง การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมเศรษฐกิจบนฐานวัฒนธรรม ปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน และพื้นที่ทางจิตวิญญาน
โดยมีผู้นำชุมชน และชาวบ้านห้วยหินลาดใน ให้การต้อนรับ โดยภายในชุมชนมีการจัดพื้นที่ต้อนรับโดยมีการผูกข้อมือสู่ขวัญ จากนั้นได้ทานอาหารพื้นเมืองของชาวปกาเกอะญอ ก่อนที่เยาวชนในหมู่บ้านจะพาเดินป่าเยี่ยมชมความอุดมสมบูรณ์ภายในหมู่บ้าน รวมถึงชมพื้นที่ปย่งเขตแดนของชุมชน และเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ผ้าทอของชุมชน ก่อนจะเข้าสู่เวทีเสวนา
ในเวทีเสวนา ได้มีการพูดคุยถึงแผนการจัดการชุมชนตามนโยบายฟื้นฟูวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยง การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมเศรษฐกิจบนฐานวัฒนธรรม ปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน และพื้นที่ทางจิตวิญญาน พร้อมกับรับฟังข้อเสนอของชาวบ้านเพื่อให้เกิดการพมฯาร่วมกันทั้งด้านอาชีพ วัฒนธรรม รวมไปถึงการอนุรักษ์ผืนป่าร่วมกัน ซึ่งได้มีการหยิบยกประเด็นการทำการเกษตรเพื่อทำกินของชาวบ้าน ที่ถูกมองว่าเป็นการรุกล้ำผืนป่ามาเป็นประเด็นเพื่อหาทางออกให้ชุมชน ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมก็ได้รับหนังสือข้อเรียกร้องของชุมชน เพื่อนำเสนอในที่ประชุมคณรัฐมนตรี และหาทางออกให้กับชุมชนต่อไป
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล กล่าวว่า วันนี้ได้มีอากาสมาเยี่ยมและมารับฟังกลุ่มชาติพันธุ์ อยู่กันแบบไหน และบูรณาการอย่างไร ที่ทางกระทรวงวัฒนธรรม หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะช่วยกันผลักดัน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน ในวันนี้ได้มาดูเรื่องความมั่นคงในที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน ในบริเวณพื้นที่ของไร่หมุนเวียนที่ใช้งานอยู่ ซึ่งชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ที่นี่มีความเข้มแข็งที่แข็งแรงมาก ที่จะอยู่อย่างยั่งยืน และใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยได้รับฟังหลายอย่างเช่นการอยู่โดยการพึ่งพาตนเอง เช่นการปลูกพืชผักให้เกิดประโยชน์สูงสุด เหลือเอามาขาย และแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งมาเป็นงบกลางของหมู่บ้านเพื่อที่จะเอามาประโยชน์ส่วนร่วม เช่นการทำแนวกันไฟป่า ซึ่งน่าจะเป็นตัวอย่างให้กับชุมชนอื่นๆ
“ที่บ้านบ้านห้วยหินลาดใน มีผลิตภัณฑ์หลายอย่าง เช่น ชา กาแฟ น้ำผึ้งชันโรง การทอผ้า ที่ทอเอง และมีพื้นที่ซึ่งคาดว่าจะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม แต่ก็จะต้องมีการควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยว ในการเข้ามาเพื่อเรียนรู้วิถีวัฒนธรรม และมีสิ่งที่น่าเรียนรู้มากมาย ซึ่งทางกระทรวงวัฒนธรรมก็มี โครงการการกระตุ้นและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย (Community Cultural Product of Thailand : CCPOT) ที่คาดว่าจะนำมาเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรม เพื่อที่จะทำเกิดการผลักดันร่วมกันในอนาคตได้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว
สำหรับปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำทางด้านวีถีชีวิตและวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ทางกระทรวง และศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ก็ได้มีการผลักดันให้ชาติพันธุ์ต่างๆ ที่อยู่ในประเทศไทย มีความเสมอภาคไม่มีความเหลือมล้ำในประเทศไทย ที่ผลักดันกันอยู่ก็คือร่าง พรบ. ที่อยากจะให้เป็นก้าวแรก และผลักดันให้เร็วที่สุด เพื่อให้ประสบความสำเร็จ
