สืบจังหวัดตามลากตัวแก๊งทวงหนี้อายุน้อยหลังก่อเหตุข้วางประทัดยักใส่ลูกหนี้

5
(2)
image_print

ชุดสืบสวน สภ เมืองแพร่ร่วมชุดสืบสวน ภ.จว.แพร่รวบ2หนุ่มรุ่นแก๊งเงินกู้ดอกโหดปาประทัดข่มขู่ลูกหนี้้  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากเหตุการณ์ทำให้เสียทรัพย์ (กรณีทวงเงินกู้ จุดประทัด ตามที่ปรากฏในโลกโชเชียลโดยชุดสืบสวน สภ.เมืองแพร่ ร่วมกับ ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.แพร่ ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 2 คน คือ1.) นายสงกรานต์ ประสพสุข อายุ 20 ปี ที่อยู่ 490/7ญ ซอยท่าเรือ ต.บางปลาสร้อย อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นผู้ขับขี่และเป็นผู้ต้องหาที่1 และ2.)นายจีรพัฒน์  ต.น้ำเลา อ.ร้องกวาง จว.แพร่  เป็นผู้นั่งซ้อนท้ายและเป็นผู้ต้องหาที่2พร้อมด้วยของกลาง คือ

1.) รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า  รุ่นเวฟ125ไอ สีเทา-น้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1กณ3509 แพร่ จำนวน 1 คัน

(เป็นของกลางที่ผู้ต้องหาใช้ขับขี่เป็นยานพาหนะในการกระทำความผิด ตรวจยึดพบผู้ต้องหาที่1และ2 ขับขี่ซ้อนท้าย พากันเข้ามาจอดอยู่ภายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.สาขาทุ่งกวาว ต.ทุ่งกวาว อ.เมืองแพร่ฯ)นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีโดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับอันเป็นกิจการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับการธนาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต  และให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมและ ให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้” และ “ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์”กล่าวคือ ก่อนที่จะทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา วันนี้ (19 ก.ค.67) เวลาประมาณ 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้รับแจ้งจาก ร.ต.อ.ก้องนภา  วงศ์ชัย  รอง สว.(สอบสวน.) สภ.เมืองแพร่ฯ ว่าได้มี นางปริศนา ถ้อยคำ อายุ 53 ปี ที่อยู่ 77/3 หมู่ 8 ต.กาญจนา อ.เมืองแพร่ จว.แพร่ เป็นผู้เสียหาย มาแจ้งว่า เมื่อช่วงประมาณวันที่ 24 เม.ย.67 ได้มีชายไทยอ้างว่าชื่อเจมส์ ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง และไม่ทราบที่อยู่ มาปล่อยเงินให้กับผู้แจ้งกู้ยืมเงิน เป็นจำนวน 5,000 บาท โดยบุคคลดังกล่าวให้ผู้แจ้งชำระดอกเบี้ยเป็นรายวัน วันละ 100 บาท จนกว่าจะมี เงินต้นจำนวน 5,000 บาทที่กู้ยืนไป มาชำระคืนแก่บุคคลดังกล่าว โดยในแต่ละวันจะมีชายไทย จำนวน 2 คน ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง จะมาเก็บเงินดอกเบี้ยจากผู้แจ้ง ผู้แจ้งได้ชำระดอกเบี้ยเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อระหว่าง วันที่ 16-19 ก.ค.67 ผู้แจ้งไม่มีเงินชำระจึงขอผัดผ่อนการชำระไป และในวันที่ 19 ก.ค.67 เวลาประมาณ 06.50 น. ได้มีชายไทย จำนวน 2 คน ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริงดังกล่าว ที่เคยมาเก็บดอกเบี้ยกับผู้แจ้ง ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อทะเบียน มาที่บ้านพักที่ผู้แจ้งอาศัยอยู่ คือ บ้านเลขที่ 211 ม.9 ต.เหมืองหม้อ อ.เมืองแพร่ จว.แพร่ และ นำลูกประทัด ชนิดปิงปอง จุดขว้างปาเข้ามาภายในเขตพื้นที่บ้านของผู้แจ้งลูกประทัดดังกล่าวตกใส่ที่หลังคาบ้านของผู้แจ้ง ได้รับความเสียหาย จึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับชายที่กระทำความผิดดังกล่าวให้ถึงที่สุด

 ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวบพยานหลักฐานเพื่อสืบสวน ติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พบประทัดสีน้ำเงินแดงลักษณะกลมคล้ายปิงปองซึ่งยังไม่มีการระเบิด จำนวน 1 ลูก ตกอยู่ภายในบริเวณบ้านเลขที่ 211 ม.9 ต.เหมืองหม้อ อ.เมืองแพร่ จว.แพร่ และกระเบื้องหลังคาได้รับความเสียหายมีร่องรอยเป็นรูโหว่ ความกว้างประมาณ 2 นิ้ว เชื่อว่าเกิดจากแรงระเบิดของลูกประทัดที่คนร้ายได้ลงมือกระทำความผิด สอบถามผู้เสียหายและบุคคลภายในบ้าน ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากการกระทำความผิดดังกล่าวแต่อย่างใด

       จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตรวจสอบกล้องวงจรปิด ของหมู่บ้าน ซึ่งส่องไปยังบริเวณบ้านของผู้เสียหาย และบันทึกภาพคนร้ายเป็นชายไทย ไม่ทราบชื่อ จำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 1กณ3509 แพร่  ซึ่งตรวจแล้วพบว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็น ยี่ห้อฮอนด้า  รุ่นเวฟ125ไอ สีเทา-น้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1กณ3509 แพร่ เข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 211 ม.9 ต.เหมืองหม้อ อ.เมืองแพร่ฯ และเดินวนเวียนอยู่ประมาณ 1 นาที และในมือถือวัตถุขนาดเล็กแสดงกิริยาขว้างเข้าไปบริเวณบ้านของผู้เสียหายหลังดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.10 น. วันที่ 19 ก.ค.67 ซึ่งผู้เสียหายอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้นบริเวณหน้าบ้านของตน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้นำกล้องวงจรปิดให้กับผู้เสียหายดูแล้ว ผู้เสียหายยืนยันว่าชายทั้งสองคนในภาพตามกล้องวงจรปิด คือ คนที่มาเก็บดอกเบี้ยกับตนตลอดทุกครั้ง และยืนยันว่าเหตุเกิดช่วงเวลาตรงกันกับที่ตนได้ยินเสียงระเบิดดังกล่าว แต่ไม่กล้าออกมาดูเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับตน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และได้รับอนุมัติจาก พล.ต.ต.พิชญา บุญขจร ผบก.ภ.จว.แพร่ และพ.ต.อ.นรินทร์ วรรณมณี ผกก.สภ.เมืองแพร่ ให้ทำการสืบสวน ติดตาม จับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.อ.มนัส เกิดสุขโข ผกก.สส.ภ.จว.แพร่  พ.ต.ท.ฐตภณ ทองวิภาวรรณ์ สว.สส.สภ.เมืองแพร่ฯ พร้อมพวก ร่วมกับชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ นำกำลังตรวจสอบ ติดตาม เพื่อจับกุมชายผู้กระทำความผิดดังกล่าว และได้กระจ่ายข่าวการกระทำความผิดให้กับภาคประชาชน ให้ทราบเพื่อจะได้แจ้งเบาะแสของคนร้ายดังกล่าว ให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามจับกุมต่อไปกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอสงวนนาม เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และหวังเงินรางวัลสินบนนำจับ) ว่า พบชายไทย ไม่ทราบชื่อ จำนวน 2 คนซึ่งต้องสงสัยและมีตำหนิรูปพรรณตรงกันกับคนร้ายที่กระทำความผิดในวันและเวลาดังกล่าว ได้ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ และติดหมายเลขทะเบียน 1กณ3509 แพร่ เข้ามาจอดอยู่ภายในบริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมัน ปตท.สาขาทุ่งกวาว ต.ทุ่งกวาว อ.เมืองแพร่ จว.แพร่ ซึ่งข้อมูลตรงกันกับที่เจ้าหน้าตำรวจติดตามอยู่ ชุดจับกุมจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และนำกำลังเข้าไปตรวจสอบ พบชายต้องสงสัย จำนวน 2 คน นั่งควบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวและจอดอยู่บริเวณภายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.สาขาทุ่งกวาว ชุดจับกุมจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสอบถามชายทั้งสองคน แจ้งว่าตนชื่อ นายสงกรานต์ ประสพสุข อายุ 20 ปี ที่อยู่ 490/7ญ ซอยท่าเรือ ต.บางปลาสร้อย อ.เมืองชลรีบุ ชลบุรี  ซึ่งเป็นผู้ขับขี่ (เป็นผู้ต้องหาที่1) และมี นายจีรพัฒน์   (เป็นผู้นั่งซ้อนท้ายและเป็นผู้ต้องหาที่2 ชุดจับกุมได้ขอความร่วมมือโดยได้นำพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดให้ชายทั้งสองคนดู และชายทั้งสองคนได้รับสารภาพในทันทีทันใดว่า บุคคลในภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดคือคนทั้งสอง และตนทั้งสองเป็นผู้กระทำความผิดดังกล่าวจริง จึงขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจพบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ125ไอ สีเทา-น้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1กณ3509 แพร่ จำนวน 1 คัน ซึ่งตรงกับภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด ชุดจับกุมจึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางต่อหน้าผู้ต้องหาทั้งสองคน โดยความยินยอมและสมัครใจของผู้ต้องหา (เป็นของกลางที่ผู้ต้องหาใช้ขับขี่เป็นยานพาหนะในการกระทำความผิด ตรวจยึดพบผู้ต้องหาที่1และ2 ขับขี่ซ้อนท้ายพากันเข้ามาจอดอยู่ภายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.สาขาทุ่งกวาว ต.ทุ่งกวาว อ.เมืองแพร่ฯ) สอบถามผู้ต้องหาทั้งสองคนถึงสาเหตุในการกระทำความผิด แจ้งว่าเนื่องจากผู้เสียหายไม่ยอมชำระเงินดอกเบี้ยหรือเงินต้นที่กู้ยืมไป โดยผิดนัดผัดวันประกันพรุ่งมาอยู่หลายวัน จึงเป็นเหตุให้เกิดความโกรธและได้ลงมือกระทำความผิดจุดประทัดก่อกวน เพื่อหวังให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวและยอมชำระเงินกู้ยืมดังกล่าวแก่ตน ซึ่งตนทราบดีว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ให้คะแนนบทความนี้

กรุณาเลือกจำนวนดาว

คะแนนค่าเฉลี่ย 5 / 5. จำนวนผู้ให้คะแนนโวต 2

ยังไม่มีผู้ให้คะแนนบทความนี้

Sending
User Review
0 (0 votes)

Leave a Reply

Translate »