เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2561 เวลา 09.30 น. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เรื่องแนวทางการส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนประเภทกาแฟ ณ ภูมิใจ๋ คอฟฟี่ ฟาร์ม จ.น่าน โดยมี นายเทวา ปัญญาบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าย พร้อมด้วยนายนพพร เรีองสว่าง นายอำเภอเวียงสา กล่าวต้อนรับ ซึ่งในโอกาสการลงพื้นที่ในครั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้บูรณาการร่วมกับภาคเอกชน เพื่อรับฟังความเดือดร้อนจากตัวแทนกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการกาแฟในจังหวัดน่าน อีกทั้งเป็นการศึกษาแนวทางการส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนประเภทกาแฟในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อการสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าใน 4 ปี เนื่องจากกาแฟมีความต้องการทางการตลาดค่อนข้างสูง และเป็นการแก้ไขปัญหาหมอกควันจากการเผาพื้นที่การเกษตร รวมถึงศึกษาแนวทางการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการผลิต เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพทางการเกษตร ตลอดจนแนวทางด้านการตลาด ตามนโยบายภาคการเกษตร “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”
รมช.อรรถกร กล่าวว่า สำหรับแนวทางส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนประเภทกาแฟในเบื้องต้นได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จัดทำคู่มือการปลูกกาแฟ เพื่อเป็นการพัฒนาและต่อยอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรรุ่นใหม่ที่มีความสนใจ พร้อมทั้งสนับสนุนปัจจัยการผลิต อาทิ ต้นกล้ากาแฟ ปุ๋ยอินทีรีย์ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ ตลอดจนการตรวจสอบและพัฒนาคุณภาพผลผลิตกาแฟให้เป็นไปตามมาตรฐาน GAP เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยการบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อการอำนวยความสะดวกเกษตรกรและการพัฒนาต่อยอดอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ในส่วนของปัจจัยสำคัญอย่างปัจจัยเรื่องน้ำ ได้เร่งรัดกรมชล ประทานให้มีการสำรวจและวางแผนการบริหารจัดน้ำการในพื้นที่ เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำภาคการเกษตรอีกด้วย
หลังจากนั้น เวลา 13.30 น.รมช.อรรถกรและคณะ เดินทางต่อไปยังศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดน่าน เพื่อเยี่ยมชมแปลงเรียนรู้พันธุ์ไผ่และศึกษาแนวทางการส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนประเภทไผ่ซางหม่น ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรได้มีการส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ด้านการปลูก รวมถึงพัฒนาทักษะการแปรรูปผลิตภัณฑ์ไผ่ เพื่อการต่อยอดอาชีพเกษตรกร อาทิ เฟอร์นิเจอร์ไม้ไผ่ ชาใบไผ่ เป็นต้น จากนั้นคณะรัฐมนตรีเกษตรได้เดินทางเยี่ยมชมแปลงปลูกไผ่ซางหม่นของนายภาคิน ขุนนิรงค์ Young Smart Farmer ด้านการปลูกและขยายพันธุ์ไผ่ซางหม่น เพื่อหารือแนวทางการสนับสนุนแปรรูปหน่อไม้อีกด้วย
ในการส่งเสริมพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ให้แก่เกษตรกร เพื่อเป็นการต่อยอดและพัฒนาอาชีพเกษตรกร ไผ่ซางหม่นเป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเพิ่มเติมได้ ในส่วนความข้อจำกัดต่าง ๆ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำโจทย์ตรงนี้ไปศึกษาแนวทางการแก้ไข ต่อไป รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ กล่าว