ลำพูน/ รณรงค์ไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ

0
(0)
image_print

ผู้ว่าราชการ 4 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมเป็นสักขีพยาน การทำ MOU รณรงค์ไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ เปลี่ยนนำมาผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขภาพที่ดีต่อผู้บริโภค
ที่ห้องทาทุ่งหลวง กัซซัน ขุนตาลกอล์ฟแอนด์รีสอร์ท อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเป็นสักขีพยานกิตติมศักดิ์พิธีลงนาม MOU “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการรณรงค์ไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ และนำมาผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขภาพที่ดีต่อผู้บริโภค” ระหว่างกลุ่มสนามกอล์ฟกัซซันฯ บริษัท บีเอสจีเอฟฯ และกลุ่มบริษัทธนโชคฯ โดยมี นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และนายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ด้วย

โดยการจัดลงนาม MOU บันทึกข้อตกลงความร่วมมือได้จัดขึ้นเนื่องจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นประเด็นที่ประชาคมโลกให้ความสำคัญ และหลายประเทศมีการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกัน โดยตั้งเป้าหมายมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2593 บีเอสจีเอฟ ในฐานะบริษัทนวัตกรรมสีเขียว ผู้ผลิต เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel – SAF) จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว (Used Cooking Oi) เป็นรายแรกในประเทศไทย และกลุ่มบริษัทธนโชค บริษัทร่วมทุน มีความมุ่งมั่นในการร่วมแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศของโลก ได้มีการลงทุนเพื่อสร้างหน่วยผลิตน้ำมันอากาศยานแบบยั่งยืนจากน้ำมันใช้แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าของของเสียภายในประเทศและยังช่วยในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคอุตสาหกรรมการบิน บีเอสจีเอฟ จึงประสงค์จัดทำ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือในกระบวนการรวบรวมน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วฉบับนี้กับ กัสซัน ในฐานะที่เป็นองค์กรเอกชน ที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมในพื้นที่ภาคเหนือมาอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายธรรมรัตน์ ประยูรสุข ประธานกรรมการ บริษัทบีเอสจีเอฟ จำกัด เปิดเผยว่าที่ผ่านมากรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับบริษัทบางจากฯ ดำเนินโครงการไม่ทอดซ้ำ รณรงค์ให้ร้านอาหารไม่ใช้น้ำมันปรุงอาหารทอดซ้ำและการจัดการน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วอย่างถูกวิธีด้วยการขายให้กับ บีเอสจีเอฟ เพื่อนำไปผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนคือ คือ เชื้อเพลิงที่ผลิตจากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว นำมาผสมกับน้ำมันเครื่องบิน ใช้เป็นเชื้อเพลิงเครื่องบินได้เลย โดยภาคการบินทั่วโลกสามารถนำไปใช้ทดแทนได้ทันที โดยไม่ต้องดัดแปลงเครื่องยนต์และไม่ส่งผลต่อเครื่องยนต์โดยผสมในสัดส่วนสูงสุดไม่เกิน 50% ซึ่งเป็นนวัตกรรมสีเขียวเพื่อความยั่งยืนช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งจากการประเมินปริมาณการใช้น้ำมันของบริษัทพบว่าประเทศไทยใช้น้ำมันกว่า 3 ล้านลิตร หากมีการรณรงค์กับประชาชนไม่นำน้ำมันไปทิ้ง และไม่นำไปทอดซ้ำ ควรจะมีน้ำมันที่เหลือจากการใช้แล้วกลับมาสู่กระบวนการระบบของการผลิตน้ำมันเครื่องบินไม่ต่ำกว่า 7 แสนลิตรต่อวัน ซึ่งจะทำให้ประเทสไทยลดการนำเข้าปิโตรเลี่ยมถึงวันล่ะเกือบ 1 ล้นลิตรเลยทีเดียว
ในส่วนช่องทางการรับซื้อน้ำมันที่ใช้แล้วจากประชาชนตามครัวเรือน หรือร้านอาหารต่าง ทางบริษัทบีเอสจีเอฟ ได้ร่วมทุนกับบริษัทเอกชนในการที่มีการตั้งตัวแทนรับซื้อทุกอำเภอในพื้นที่ภาคเหนือ นอกจากนี้ยังสามารถนำน้ำมันใช้แล้วมาจำหน่ายที่ปั๊มบางจาก ซึ่งในปัจจุบันจะมีการขยายจุดรับซื้อทุกอำเภอในพื้นที่ภาคเหนือ หลังจากนั้นก็จะมีตัวแทนรับซื้อประจำจังหวัดลำเลียงน้ำมันที่ได้ไปส่งเพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตที่โรงงานในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อผลิตเป็นน้ำมันเครื่องบินต่อไป ซึ่งราคาที่รับซื้อน้ำมันเก่าปัจจุบันจะอยู่ที่กิโลกรัมล่ะ 20 บาท ส่วนน้ำมันที่รับซื้อจะเป็นน้ำมันเก่าที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำ.
///////////////////////
นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่-ลำพูน

ให้คะแนนบทความนี้

กรุณาเลือกจำนวนดาว

คะแนนค่าเฉลี่ย 0 / 5. จำนวนผู้ให้คะแนนโวต 0

ยังไม่มีผู้ให้คะแนนบทความนี้

Sending
User Review
0 (0 votes)

Leave a Reply

Translate »