สงกรานต์ไม่สน ลุยรุกพื้นที่ป่าเจอไม้แข็งจับดำเนินคดีหนัก

0
(0)
image_print

670414 วิรัตน์ แม่ฮ่องสอน

เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 ตามคำสั่งการ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช , ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขา แม่สะเรียง ให้ทุกป่าอนุรักษ์จัดชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจทุกป่า ในการออกไล่ล่าผู้ลักลอบเผาป่าอย่างเด็ดขาด ทั้งในรูปแบบรถจักรยานยนต์ เฝ้าซุ่มจับกุม เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ที่มาลักลอบเผาในพื้นที่ป่า ตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567 เป็นต้นไป
เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 นายนิกร แก้วโมรา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน สั่งการให้ คณะเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.16 (สบป่อง) เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครองอำเภอปางมะผ้า เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย.ร.712 เจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติถ้ำลอด ได้ร่วมกัน ออกตรวจลาดตระเวนป้องกันไฟป่าและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายป่าไม้และสัตว์ป่า ตามจุดความร้อน (Hotsports) วันที่ 14 เมษายน 2567 เวลา 02.02 น.
ครั้นเวลา 10.30 น. วันที่ 14 เมษายน 2567
คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุไฟป่า
พบพื้นที่ถูกบุกรุก จำนวน ๑ จุด บริเวณจุดเกิดเหตุพิกัด 47Q พิกัด 423180E 2147834N พบไม้กระยาเลย(สน)ถูกตัดโค่น 20 ท่อนปริมาตร 13.32 ลบ.ม. ไม้รัก จากนั้นคณะจึงเข้าตรวจสอบพื้นที่ทำกินที่มีการแจ้งสิทธิการครอบครองซึ่งอยู่ ติดกับพื้นที่บุกรุกดังกล่าว พบไม้กระยาเลย(สน)แปรรูป จำนวน 4 แผ่น ปริมาตร 0.18 ลบ.ม. (รายละเอียดตามบัญชีไม้ของกลางแนบท้ายบันทึกนี้) ซึ่งอยู่ในพื้นที่ทำกินที่มีการแจ้งสิทธิการครอบครอง อยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้านลุกป่าก๊อ ประมาณ 100 เมตร จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันดำเนินการตรวจวัดพิกัดโดยรอบโดยใช้เครื่องมือตรวจวัดพิกัดจับสัญญาณ ดาวเทียม (GPS) ทำการตรวจวัดพิกัดของพื้นที่ป่าที่ ถูกบุกรุกแผ้วถางเพื่อยึดถือครอบครองโดยวัดค่าพิกัด 5 จุด ซึ่งคำนวณพื้นที่ยึดถือครอบครองได้ เนื้อที่รวม 0 – 2 – 16 ไร่ เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศ ในหลายช่วงปี พบว่าพื้นที่บุกรุกดังกล่าว ติดกับพื้นที่ทำกินมีการแจ้งสิทธิการครอบครอง 1 แปลง เป็นชื่อ นางสาวผ่องพันธ์ จอโพ อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 58 หมู่ที่ 5 ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยที่นางสาวผ่องพันธ์ จอโพ บอกว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดใด ๆ โดยพื้นที่บุกรุกดังกล่าวไม่ปรากฏร่องรอยการใช้ประโยชน์ที่ดินในช่วงหลัง ปี 2557 และไม่มีผู้ใดแสดงตัวว่าเป็นคนกระทำการบุกรุก แผ้วถาง พื้นที่ดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่มีเหตุให้สันนิษฐานว่านางสาวผ่องพันธ์ จอโพ เป็นผู้กระทำความผิด และมิได้กระทำเพียงคนเดียว เนื่องจากไม้ที่ถูกตัดมีขนาดใหญ่ ไม่สามารถกระทำเพียงคนเดียวได้พร้อมทั้งบริเวณรอบ ๆ พื้นที่ที่ถูกบุกรุกนั้นไม่ติดพื้นที่ทำกินของผู้ใดเลยนอกจากพื้นที่ทำกินของนางสาวผ่องพันธ์ จอโพ เพียงผู้เดียว เจ้าหน้าที่จึงลงความเห็นว่าเป็นการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 , 69 ,48 ฐานร่วมกันทำไม้และมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปและมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 54,72 ตรี ฐาน “ก่นสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” “ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”ตาม พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 55(2),99 ฐาน “ยึดถือหรือครอบครองที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือทำด้วยประการใดให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติเดิม”“ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปีหรือปรับตั้งแต่สี่แสนถึงสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” มาตรา 55(5),100 ฐาน เก็บหา นำออกไป กระทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพ ซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ ปิโตรเลียม หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำการอื่นใด อันส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ หรือความหลากหลายทางชีวภาพ
พร้อมจัดทำบันทึกตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปางมะผ้า เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนผู้กระทำความผิดรายนี้ ต่อไป
////////////////

ให้คะแนนบทความนี้

กรุณาเลือกจำนวนดาว

คะแนนค่าเฉลี่ย 0 / 5. จำนวนผู้ให้คะแนนโวต 0

ยังไม่มีผู้ให้คะแนนบทความนี้

Sending
User Review
0 (0 votes)

Leave a Reply

Translate »