ฝ่ายปกครอง อ.แม่ริม ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ เด็กชายวัย 9 ขวบ ที่พ่อกับแม่แยกทางกัน ถูกแม่ติดเหล้า พาไปเร่ขอเงิน นานหลายปี อ้างขอเงินไปรักษาเด็กที่มีแผลเรื้อรังตาม ร่างกาย ขณะที่พ่อเคยมารับไปอยู่ แต่แม่กลับพาตัวมาอยู่ด้วย ชาวบ้านสุดทน ยื่นหนังสือศูนย์ดำรงธรรมให้ความช่วยเหลือ พาตัวไปรักษาแผล ก่อนจะติดต่อพ่อมารับไปดูแล หลังเจ้าหน้าที่นำตัวแม่ไปบำบัดอาการติดเหล้า
นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ ลงพื้นที่บ้านท้องฝาย ต.ริมเหนือ อ.แม่ริม เพื่อให้ความช่วยเหลือเด็กชายบอย (นามสมมุติ) อายุ 9 ขวบ หลังได้รับร้องเรียนว่าต้องใช้ชีวิตด้วยความลำบาก ถูกแม่แท้ ๆ พาไปเร่ขอเงินตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วทั้งอำเภอในสภาพเนื้อตัวเต็มไปด้วยร่องรอยบาดแผล จนชาวบ้านที่พบเห็นสลดใจและเกิดความสงสาร เข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรม อ.แม่ริม ให้เข้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและช่วยเหลือ
เมื่อเดินทางไปถึงพบนางแสงแก้ว ( ขอสงวนนามสกุล ) แม่ของเด็กชายบอย อยู่ในอาการเมาสุรา เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปพูดคุยเกลี้ยกล่อมให้เข้ารับบำบัดอาการติดสุราเรื้อรังที่โรงพยาบาลแต่ก็ไม่เป็นผล
ส่วนพ่อกับแม่ของนางแสงแก้ว บอกว่า ลูกสาวเลิกรากับสามีตั้งแต่เด็กชายบอยอายุ 3 ขวบ หลังจากนั้นเด็กชายบอยก็ได้อาศัยอยู่กับแม่มาโดยตลอด โดยแยกอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งในบริเวณเดียวกัน และ ที่ผ่านมาลูกสาวได้ดูแลลูกตามปกติ ไม่มีการทำร้ายหรือพาไปเร่หาเงิน ส่วนบาดแผลตามร่างกายเป็นเพราะเด็กชายบอยแพ้ยาฆ่าหญ้า
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ไปสอบถามกับเด็กชายบอยที่โรงเรียน เด็กชายบอยบอกว่ามักจะถูกแม่ทำร้ายร่างกายเป็นประจำ โดยบางครั้งถูกไม้ฟืนตีตามร่างกายจนเป็นแผลฟกช้ำ บางวันยังถูกบังคับให้เดินเร่ออกขอเงินตามห้างร้านต่าง ๆ โดยอ้างว่าเพื่อจะขอเงินจะนำไปรักษาลูกชายของตน ที่มีแผลเรื้อรังตามร่างกาย หลังจากนั้นแม่ก็จะนำเงินที่ได้ไปซื้อเหล้ากิน เงินบางส่วนจะแบ่งให้ลูกไปโรงเรียน
อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่เลี้ยงดูลูกชายนางแสงแก้วจะขอเงินจากพ่อของเด็กชายบอยเพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูลูก แต่มักจะแอบนำเงินส่วนนี้มาใช้จ่ายส่วนตัว เมื่อเงินหมดก็จะนำลูกชายออกเดินเร่ขอเงิน บางครั้งไม่ได้เงินก็จะดุด่าลูกชาย จนบางครั้งลูกชายหนีออกจากบ้านหลายครั้ง จนล่าสุดเด็กชายบอยต้องหนีออกจากบ้านไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนจะมีชาวบ้านตามหาตัวพาส่งกลับบ้าน
หลังตรวจสอบข้อเท็จจริง นายบุญญฤทธิ์ได้ติดต่อไปยังพ่อของเด็กชายบอย ที่อยู่อำเภอใกล้เคียงเพื่อมารับตัวลูกชายไปดูแลเพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเด็ก ก่อนจะหาแนวหางช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไป
ด้านครูประจำชั้น เปิดเผยว่า หากดูผิวเผินเด็กชายบอย ดูเรียบร้อย เรียนได้ตามเกณฑ์ปกติ แต่หลายครั้งแอบขู่เอาเงินจากเพื่อน เพราะบางวันไม่ได้เงินมาเรียน เท่าที่สังเกตเชื่อว่าเด็กอาจมีภาวะเก็บกดจากสภาพแวดล้อมใกล้ตัว หากครูไม่ถามก็จะไม่เล่าเรื่องที่บ้านให้ฟัง โดยที่ผ่านมาเคยขอให้ครูไปส่งหาพ่อและบอกว่าแม่ติดเหล้าและทุบตี แต่เมื่อสอบถามแม่ แม่บอกว่าเด็กชายบอย ตีแม่ด้วย ทำให้ไม่รู้จะเชื่อใคร แต่เท่าที่ทางโรงเรียนทราบคือเด็กมีปัญหาครอบครัวมาตั้งแต่ ป.1 แม่ไม่ยอมให้ไปอยู่กับพ่อเพราะต้องการเรียกเอาค่าใช้จ่ายจากพ่อ ก่อนหน้านี้ตอน ป.2 พ่อเคยพาย้ายโรงเรียน แต่แม่ก็ไปพาตัวกลับมาและกลับมาเรียนที่เดิม
ภาพ/ข่าว.นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่