เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 นายมงคล ไชยภักดี หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) ร่วมกับส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม ได้ดำเนินการสืบสวน ขยายผลเพิ่มเติม ตามที่หน่วยฯพญาเสือ ได้จับกุมนายธนสิทธิ์ฯ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.64 ฐาน ค้าและครอบครองซากสัตว์ป่าสงวนและซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 โดยขอหมายค้นจากศาลจังหวัดปทุมธานี เพื่อเข้าจับกุมเครือข่ายค้าซากสัตว์ป่าสงวนและคุ้มครอง ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเข้าจับกุมเครือข่ายค้าซากสัตว์ป่าสงวนและคุ้มครอง ผ่านช่องทางออนไลน์ นายมารุตฯ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/34 ม.3 ต.บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี
ผลการตรวจค้นพบซากสัตว์ป่าสงวนและซากสัตว์ป่าคุ้มครองที่ประกาศขาย จำนวน 7 รายการ ดังนี้ หนังเสือไฟทั้งตัว (Felis temmincki) 1 ผืน อุ้งตีนเสือโคร่ง (Panthera tigris) 1 ชิ้น หนังเสือโคร่ง (Panthera tigris) 2 ชิ้น กระโหลกเสือไม่ทราบชนิด 3 ชิ้น ฟันกรามช้าง (Elephas maximus) 1 ชิ้น เขาเก้ง (Muntiacus muntjak) 1 ชิ้น เลียงผา (Capricornis sumatraensis) 2 ชิ้น
ทั้งนี้ การกระทำของนายมารุตฯ เป็นการกระทำความผิดตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่ง ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากสัตว์ป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตาม ม.17 ม.92 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ฐาน “ค้าซากสัตว์ป่าสงวนและคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตาม ม. 29 ม. 89 ว.1 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ม.89 ว.2 ถ้ากระทำต่อซากสัตว์ป่าสงวน ต้องระวางโทษจำคุก 3-15 ปี หรือ ปรับสามแสนถึงหนึ่งล้านห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงได้รวบรวมหลักฐานจัดทำบันทึกตรวจยึดจับกุม นำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
นายมงคล ฯ หัวหน้าชุดพญาเสือ กล่าวว่า การขยายผลติดตามจับกุมขบวนการค้าซากสัตว์ป่าสงวนและซากสัตว์ป่าคุ้มครองทางสื่อออนไลน์ (เฟซบุ๊ก) รายใหญ่ เป็นการเร่งดำเนินการตามนโยบาย/ข้อสั่งการของ ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ท่านที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ที่ให้เร่งดำเนินการป้องกันและปราบปรามการ การลักลอบค้าสัตว์ป่า ซึ่งยังคงเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสัตว์ป่าทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางเฟซบุ๊ก และสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่สร้างความกังวลให้แก่องค์กรอนุรักษ์ทั่วโลก