เจ้าสำนักสงฆ์จอมฉาวสึกแล้ว หลังรู้ตัวว่าถูกแฉใบสุทธิปลอม เคยต้องคดีอาญาตอนบวช 2 ปีไม่สามารถบวชอีกได้

0
(0)
image_print

          วันที่ 11 มกราคม 2564  ที่บริเวณลานภายในสำนักสงฆ์แสงฟ้า สันรอมหมี หมู่ที่ 19 ตำบลมะเขือแจ้อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน  นายณัฏฐ์ปวัฒน์  ลือยศ ผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำพูน  มอบหมายให้ นายสนั่น  ช่างปรุง   นักวิชาการศาสนาชำนาญการ สำนักพุทธศาสนาจังหวัดลำพูน ร่วมกับ นายอินสอน มีแจ้ กำนันตำบลมะเขือแจ้ นายไพฑูรย์ อุตตระพะยอม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 19 ลงพื้นที่ตรวจสอบพระชราวุฒิ  กัลยาโน อายุ 47 ปี เจ้าสำนักสงฆ์แสงแก้ว สันรอมหมี หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระชราวุฒิ เกี่ยวกับการใช้ถ้อยคำแชทพูดคุยกับผู้หญิง โดยการใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม ออกไปในทำนองชู้สาว นอกจากนั้นยังมีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้ โดยการหลอกยืมเงินหญิงสาวที่มาทำบุญที่ค่อนข้างมีฐานะเป็นเงินจำนวนนับแสนบาท หลายครั้ง โดยอ้างว่าจะนำเงินไปสร้างวัดแล้วจะคืนให้แต่สุดท้ายก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนและบางรายคืนไม่ครบจำนวนที่ยืมไป และมีผู้หญิงที่มีฐานะก็จะถูกพระชราวุฒิประกบติดเพื่อขอยืมเงินไปนับ 10 ราย ทั้งเจ้าของธุรกิจปั๊มน้ำมัน เจ้าของบริษัทห้างร้านต่างๆก็โดนกันถ้วนหน้า  นอกจากนั้นชาวบ้านยังสงสัยการใช้ใบสุทธิปลอม เพราะพระอุปชาฌย์ได้สลักหลังว่าได้ยกเลิกการใช้ใบสุทธิ หรือหนังสือรับรองการเป็นพระภิกษุสงฆ์ไปแล้ว

        นอกจากนั้นการตรวจสอบประวัติยังพบว่าเคยต้องโทษในคดีลักทรัพย์ขณะบวชเป็นพระครั้งแรกจำนวน 2 ปี (2555-2557 ) และเคยถูกดำเนินคดียักยอกทรัพย์ เมื่อปี 2550 ก่อนจะกลับมาบวชอีกครั้ง ในปี 2562 ซึ่งตามประการของมหาเถรสมาคมเมื่อปี 2562 นั้นต้องตรวจสอบประวัติทางคดีก่อนบวช และผู้ที่เคยถูกดำเนินคดีหลังจากประกาศของมหาเถรสมาคม ก็ถือว่าขัดประกาศและขาดคุณสมบัติไม่สามารถกลับมาบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ได้ เพราะกฎหมายทางสงฆ์ถือว่าต้องอาบัติปาราชิก ที่เป็นโทษที่ร้ายแรง

       ซึ่งทางสำนักพุทธได้ทำการชี้แจงกับผู้นำชุมชนและชาวบ้านให้ทราบ ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอน ตามอำนาจหน้าที่คือประสานแจ้งให้ทางคณะสงฆ์และสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป

            ต่อมาช่วงค่ำที่ผ่านมา ที่บริเวณลานภายในสำนักสงฆ์แสงฟ้า สันรอมหมี หมู่ที่ 19 ตำบลมะเขือแจ้อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ได้มีชาวบ้านที่เคยศรัทธาอดีตพระชราวุฒิ วัย 47 ปี เจ้าสำนักสงฆ์ ต่างก็พากันมารับฟังคำสั่งของพระครูวีระ สิขะการ เจ้าคณะตำบลมะเขือแจ้ เขต 3 และคณะปกครองสงฆ์ ได้มาแจ้งแก่ชาวบ้านว่าให้ยึดตามมติที่คณะสงฆ์ได้สอบสวนและตามที่ตกลงกันไว้เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2564 ว่าให้พระชราวุฒิ ออกไปจากสำนักสงฆ์แห่งนี้ ให้ไปอยู่ที่อื่นแทน นอกจากนั้นทางคณะสงฆ์เขต 3 ตำบลมะเขือแจ้งยังได้นำหนังสือคำสั่งของเจ้าคณะตำบลมะเขือแจ้ เขต 3  ที่ 001/2564  เรื่องการพักอาศัยของพระภิกษุสามเณร ในที่พักสงฆ์สันรอมหมี(พระธาตุแสงฟ้า) โดยสั่งระงับอธิกรของพระชราวุฒิ คือให้ออกจากสถานที่นี้ไปตามมติการสอบสวนทางวินัย ที่คณะสงฆ์ เจ้าคณะตำบลมะเขือแจ้ เขต 3 ได้มีมติไว้ ซึ่งชาวบ้านที่เคยศรัทธาต่างก็ยอมรับ และยิ่งทราบว่าเคยมีประวัติทางคดีก็เกรงว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียงหมู่บ้านไปมากกว่านี้ จึงเปลี่ยนใจไม่ยอมให้พระชราวุฒิมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ต่อไป

      หลังจากนั้นเวลาประมาณ 19.40 น. พระชราวุฒิ กัลยาโน (แก้วยนต์) ได้ทำการถ่ายรูปตัวเองครึ่งตัวพร้อมกับใส่ชุดฆารวาส เป็นเสื้อยืดลายพรางสีเขียว โพสต์เฟสบุ๊กชื่อ ที่พักสงฆ์ ระบุข้อความว่า วันนี้ผมได้ลาสิกขาแล้วเพื่อตัดปัญหาทุกอย่าง และกลัวเรื่องที่จะไปหาญาติโยมที่เคารพนับถือของผมเสื่อมเสีย…ส่วนเรื่องใบสุทธิผมจะส่งไปทางไปรษณีย์ให้กับวัดแสลงต่อไป และก็กราบขอบพระคุณท่านมากที่ได้ช่วยเหลือผมมาตลอดหากมีโอกาสจะไปกราบ ขอบพระคุณท่านอีกครั้งหนึ่งของกราบขอบพระคุณครับ..หากมีอะไรให้ฝากข้อความไว้นะครับเพราะผมอยู่บนดอยคลื่นไม่ค่อยมีครับ ซึ่งข้อความดังกล่าวไม่ทราบว่าหมายถึงผู้ใด แต่เมื่อชาวบ้านตรวจสอบก็พบว่ารูปที่ถ่ายคาดว่าจะเป็นบ้านญาติในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ เพราะสังเกตุให้ดี ฝ้าเพดานสีขาว ถ้าบ้านบนดอยจริงจะไม่มีฝ้าเพดานแบบนี้ แสดงว่านายชราวุฒิหรืออดีตพระชราวุฒิ ก็ยังโกหกจนวินาทีสุดท้าย แต่ถึงอย่างไรก็ตามชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างก็ยกมือสาธุที่นายชราวุฒิสึกออกไปพ้นผ้าเหลือง

ให้คะแนนบทความนี้

กรุณาเลือกจำนวนดาว

คะแนนค่าเฉลี่ย 0 / 5. จำนวนผู้ให้คะแนนโวต 0

ยังไม่มีผู้ให้คะแนนบทความนี้

Sending
User Review
0 (0 votes)

Leave a Reply

Translate »