เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 ณ ที่เรือนจำจังหวัดพังงา นายอาคม ภูศรี ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพังงา ขเป็นผู้แทนทำการฝึกอบรมโครงการพระราชทาน โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง รุ่นที่2/1และรุ่น 2/2 กรมราชทัณฑ์ พร้อมปล่อยตัวมอบผู้ต้องขังให้กับครอบครัวและให้โอวาท แก่ผู้ต้องขังที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษทั้งหมด 208 คน เพื่อมุ่งเน้นให้ผู้ต้องหาราชทัณฑ์ได้ปรับเปลี่ยนแนวความคิด ฝึกวินัย ฝึกการแก้ปัญหา ลงมือปฏิบัติ นำความรู้ความสามารถไปดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพการงานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงพระราชทานไว้ในภูมิลำเนาของตนเองภายหลังพ้นโทษ และช่วยกันถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมในครั้งนี้ให้แก่ประชาชนเพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ร่วมพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
เรือนจำจังหวัดพังงาได้นำผู้ต้องขังชุดแรก ที่ได้รับการปล่อยตัว เมื่อวันที่ 4 มค. 64 ที่ผ่านมา รวม 132 คน และวันที่11 มค. 64 ได้ปล่อยตัวอีก76 คน ได้เดินออกจากเรือนจำ ส่งมอบต่อให้กับครอบครัวที่มารอรับอยู่ด้านหน้า เรือนจำ
โดยทั้งหมด 208 คน ร่วมกันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี บรรยากาศเต็มไปด้วยน้ำตาและรอยยิ้มของผู้พ้นโทษและครอบครัว ส่วนคนที่ไม่มีญาติมารับทางเรือนจำพังงา ได้จัดรถสองรับส่งไปขึ้นรถที่ บขส.พังงาต่อไป
นายอาคม ภูศรี ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพังงา กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยในความเป็นอยู่ของพสกนิกรของพระองค์ทุกหมู่เหล่ารวมถึงผู้ต้องราชทัณฑ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้มีการฝึกโครงการพระราชทาน “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง” กรมราชทัณฑ์ขึ้น โดยเรือนจังหวัดพังงาได้นำผู้ต้องขังเข้าทำการฝึกอบรมตามหลักของเกษตรทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้านในพื้นที่จริงขนาด 100 ตารางเมตร ด้วยการปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา เพื่อสร้างพื้นที่ขนาดเล็กที่สามารถเป็นต้นแบบเกษตรแบบผสมผสาน ด้วยการปฏิบัติเป็นขั้นเป็นตอนตั้งแต่การวางแผนบนกระดาษเป็นสัดส่วน จากนั้นทำการลงมือปฏิบัติจริงในพื้นที่ตามภูมิสังคม จำลองพื้นที่และปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง เพื่อพอกิน พออยู่ พอใช้ และพอร่มเย็น สืบสาน รักษาและต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆของในหลวงรัชกาลที่ 9 หลังจากนี้ผู้ต้องขังที่พ้นโทษจะสามารถพึ่งพาตนเองตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น จะได้ช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
ภาพ/ข่าว.ขนกวรรณ พรหมทอง ผู้สื่อข่าวพังงาโทร082-1569162