เมื่อวันที่ 10 พ.ย.64 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ,พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รองผบก.ภ.จว. เชียงใหม่ , พ.ต.อ.นพฤทธิ์ กันทา ผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่
ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.สุริยะฎิษ สุริยะธง สว.กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ หน.ชปฯ. ภ.จว.เชียงใหม่ ,ร.ต.อ.วีระชน กัญญาโภค พร้อมกับพวก สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 64 ได้ทำการจับกุมยาเสพติด จำนวน 1 ราย ผู้ต้องหา 2 คน
ของกลาง ยาบ้า จำนวน 712,020 เม็ด นางสาวไหม (ปิดนามสกุล) อายุ 29 ปี ต.สันพระเนตร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และนายจายมู ไม่มีนามสกุล ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ โดยกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและร่วมกันพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ”
จับกุม วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณ 16.00 น. สถานที่เกิดเหตุ/จับกุม บริเวณริมถนนเข้าหมู่บ้าน ซอย 1 สันกับตองเหนือ หมู่ 8 ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ต่อเนื่องสถานที่ตรวจค้นบ้านเลขที่ 99 หมู่ 2 ต.สันพระเนตร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และหอพักอาจารี ห้องที่ 8 เลขที่ 134/30 หมู่ 3 ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พฤติการณ์แห่งคดี กล่าวคือ เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าสามารถติดต่อเพื่อซื้อยาบ้าจาก นายสมชาย (ปิดนามสกุล) (หลบหนีอยู่ประเทศเมียนมาร์) ได้ โดยนายสมชายฯ ตกลงจะจำหน่ายยาบ้าให้ในราคา มัดละ 25,000 บาท และให้สายลับโอนเงินค่ายาบ้า เข้าบัญชี ธ.กรุงไทย ชื่อบัญชี นายฑูรย์ (ปิดนามสกุล) ก่อน แล้วจะมีกลุ่มผู้ร่วมขบวนการ นำยาบ้า ไปซุกซ่อนไว้ให้ แล้วให้สายลับไปเก็บเอาอีกทีหนึ่ง โดยสายลับได้แจ้งว่า กลุ่มผู้ร่วมขบวนการดังกล่าว มักจะใช้ บริเวณริมถนนเส้นซุปเปอร์ เชียงใหม่-ลำปาง และ ถนนภายในหมู่บ้าน ต.ชมภู และ ต.สารภี อ.สารภี จว.เชียงใหม่ เป็น. ซุกซ่อนยาบ้าและจะมีหญิง ซึ่งใช้ยานพาหนะเป็น รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้-ไอ สีขาว-ชมพู ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เป็นผู้นำยาบ้ามาซุกซ่อนไว้ให้กับสายลับ เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้วางกำลังไว้ตลอดเส้นทาง
ต่อมาเมื่อสายลับโอนเงินให้กับนายสมชายฯ ซักครู่หนึ่งแล้ว เจ้าพนักงานตำรวจที่วางกำลังไว้ได้สังเกตเห็น หญิงคนหนึ่งซึ่งใช้ยานพาหนะลักษณะตามที่สายลับแจ้ง ขับขี่มาบริเวณ แยกป่าแดด อ.สารภี จว.เชียงใหม่ เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้แสดงตัวเพื่อควบคุมตัวแล้วสอบถามหญิงคนดังกล่าวว่า มีสิ่งของ ผิดกฎหมายหรือไม่ โดยหญิงคนดังกล่าวรับว่า มียาบ้าซุกซ่อนอยู่ จึงได้ส่งมอบยาบ้า จำนวน 2 มัด (ประมาณ 4,000 เม็ด)ให้กับเจ้าพนักงานตำรวจ จึงได้ตรวจยึดไว้
ในเวลาต่อมา ผู้ต้องหาได้ให้การรับว่า ได้ร่วมกันกับนายจายมูฯ สามี ของตน นำยาบ้ามาซุกซ่อนไว้ ก่อนที่จะนำไปวางยังจุดต่างๆ ตามคำสั่งการของนายสมชายฯ เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบบ้านพักของผู้ต้องหา ที่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 2 บ้านแม่คาว ต.สันพระเนตร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พบนายจายมูฯ พักพักอาศัยอยู่ที่บ้าน และตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 20 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในมีดปอกผลไม้ จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
ต่อมาผู้ต้องหาและนายจายมูฯ ได้ให้การรับว่ายังมียาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนไว้ที่ที่หอพักอาจารี ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาจึงได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ไปยังหอพักดังกล่าว จากการตรวจค้นพบ ยาบ้าอีกจำนวน 354 มัด (ประมาณ 708,000 เม็ด) จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางทั้งหมด ในชั้นจับกุม น.ส.ไหมฯ ผู้ต้องหา ได้ให้การรับว่าได้รับการว่าจ้างจากพี่ดาฯ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ให้ไปรับเอายาบ้าในพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มาเก็บรักษาไว้ เพื่อรอจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้า โดยจะติดต่อทางโทรศัพท์มือถือ ของพี่ดาฯ และทางโปรแกรมไลน์ที่ใช้ชื่อว่า“เริ่มต้นใหม่”และ“อย่าลืมวันหลัง” ซึ่งตนจะได้รับค่าจ้างในการนำยาบ้าไปส่งมอบให้กับลูกค้าในราคาเม็ดละ 50 สตางค์ และในแต่ละครั้งจะได้รับค่าจ้างด้วยวิธีการโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ ชื่อบัญชี น.ส.ไหม เป็นครั้งๆไป ก่อนที่จะมาถูกจับกุมในครั้งนี้.
