พบซากวัวแดงตาย จากการต่อสู้กันเอง ที่ไร่ข้าวโพด ริมป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
วันนี้ 23 ธันวาคม 2563 เวลา 6.30 น. ชุดลาดตระเวนจุดสกัดที่ 2 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า พบวัวแดงบาดเจ็บนอนอยู่กลางไร่
นายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จึงได้ส่งนายพงษ์สิทธิ์ ศรีคุณเมือง ผู้ช่วยหัวหน้าเขตฯ พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ไร่ข้าวโพดที่เก็บเกี่ยวแล้ว ติดกับป่าชุมชนบ้านไผ่งาม ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ห่างจากแนวเขตของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ประมาณ 2 กิโลเมตร
ผลการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า เป็นวัวแดงเพศผู้ มีแผลบริเวณ บริเวณตาด้านขวา สะโพกซ้าย ขาหน้าซ้าย ขาหลังซ้ายคาดว่าจะหัก และมีบาดแผลตามตัวด้านซ้าย เป็นแผลสดใหม่ คาดว่าเกิดจากร่องรอยจากการต่อสู้ กัน ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณโดยรอบพบกองเลือด ประมาณ 3-4 กอง อยู่บริเวณใกล้เคียง ห่างจากตัวประมาณ 20 เมตร
ต่อมาเมื่อ เวลาประมาณ 10.45 น. พบว่า วัวแดงตัวดังกล่าวได้สิ้นใจลง
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จึงได้ขอยืมรถเครนจาก อบต. ลานสัก มาช่วยเคลื่อนย้ายซากวัวแดง เพื่อไปผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายที่หอต้นผึ้ง ในพื้นที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
หลังทราบข่าว นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ. สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12(นครสวรรค์) ได้มอบหมายให้นางสาวพิมพ์ชนก สรงมงคล นายสัตวแพทย์ชำนาญการ และนางสาวลลิตา อำนวยผล นักวิชาการสัตวบาล รีบลงพื้นที่ไปตรวจสอบและช่วยเหลือ ปรากฎว่า ระหว่างการเดินทาง ทราบว่า
วัวแดงได้ตายลงแล้ว จึงได้ตามไปที่หอต้นผึ้ง เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย
นางสาวพิมพ์ชนก สรงมงคล นายสัตวแพทย์ รายงานว่า จากการสังเกตภายนอก พบบาดแผลหลายจุดบริเวณลำตัวและท้อง คาดว่าเกิดจากการต่อสู้ของวัวแดงด้วยกัน พบขาหลังขวาหักบริเวณข้อเข่า (tarsal joint) ผลการผ่าซากร่วมกับสัตวแพทย์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง พบกล้ามเนื้อบริเวณลำตัวช้ำ มีเลือดออกในกล้ามเนื้อ เลือดออกที่ผนังช่องท้อง พบน้ำในถุงหุ้มหัวใจ เนื่องจากภาวะช็อค อวัยวะภายในอื่นๆ ปกติ จึงคาดว่าสาเหตุการตายสันนิษฐานว่าเกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลว จากบาดเจ็บที่รุนแรง จึงได้ทำลายซากวัวแดงดังกล่าวด้วยวิธีฝังกลบ พร้อมได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
นายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต
นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ
หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และ
นางสาวพิมพ์ชนก สรงมงคล
นายสัตวแพทย์ชำนาญการ สบอ. 12(นครสวรรค์) รายงาน