วันที่ 21 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. มอบให้
พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.5 ตำรวจทางหลวง พ.ต.ท.กรกฤช งามวงศ์วาน บูรณา สว.ส.ทล.2 ร่วมกับหน่วยงานในสังกัด ตำรวจสอบสวนกลาง ประสานเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง หรือ นรข.เขตเชียงราย นำหมายจับจำนวน 6 หมายจับ เข้าทำการจับกุมจับ นายสยาม วันน้อย อายุ 34 ปี อยู่ บ้านเลขที่72/2 ม.1 ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นบ้านของ นายสยาม ผู้ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีฉ้อโกง ปลอมแปลงเอกสาร,ใช้เอกสารปลอม ก่อเหตุหลายท้องที่ โดยมี หมายจับศาล จ.ปราจีนบุรีที่ 106/2563,หมายจับ10/2564,และหมายจับที่151/2564 หมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ 531/63,/หมายจับศาลแขวงดอนเมืองที่ 26/64และหมายจับแขวงนนทบุรีที่ 299/63
การเข้าทำการจับกุมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ได้แสดงหมายจับต่อ นายสยาม พร้อมดำเนินการจับกุมทันที จากนั้นทำการควบคุมตัวภายใต้มาตรการป้องกันโควิด19 และนำตัวมาสอบสวน ที่ด่านตรวจคนเมืองเชียงแสน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พร้อมบันทึกการจับกุม ทั้งนี้ได้ทำการสอบสวนเบื้องต้น
นายสยาม ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหลบหนีตนเองทำหน้าที่เป็น ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้ออุปกรณ์ไอที อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ บริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรี และได้ทำการติดต่อสั่งซื้ออุปกรณ์คอมฯจากหลายร้านค้า ซึ่งเป็นไปตามหมายจับ โดยอยู่ในท้องที่ สน.บางนาฯ สน.สายไหม สน.บางสีเมือง และ สภ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ได้ปลอมแปลงเอกสารใบสั่งซื้อ และเอกสารต่างๆของบริษัท จนห้างร้านต่างๆหลงเชื่อและขายสินค้าค้าอุปกรณ์คอมพ์พิวเตอร์ฯให้กับตนเอง แต่ไม่ได้นำสินค้านั้นเข้าไปในบริษัท แต่ได้นำสินค้าที่ได้ นำไปขายต่อเองและหลบหนีกลับบ้านเกิด อ.เชียงของ จ.เชียงราย
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ได้มีผู้เสียหายจำนวนมาก ได้แจ้งความดำเนินคีด รวมทั้งบริษัทที่ผู้ต้องหาทำงาน และยังได้มีการโพสต์แจ้งเตือนในโลกโซเชียล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง จึงได้ทำการสืบสวนขยายผล เพราะถือว่าเกิดผลเสียหายต่อประชาชนและร้านค้าจำนวนมาก เพราะมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นมากกว่า 4 ล้านบาท จนเป็นที่มาของการเข้าจับกุมดังกล่าว