ยึดไม้สักท่อนกลางสวนส้ม เชื่อมโยงขบวนการค้าไม้รายใหญ่

ยึดไม้สักขนาดใหญ่กว่า 350 ท่อนกลางสวนส้ม ก่อนจะถูกโยกย้ายออกพื้นที่ เชื่อมโยงขบวนการค้าไม้รายใหญ่
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 ตุลาคม 2564 นายสักรินทร์ ปัญญาใจ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ ร่วมกับนายประสิทธิ์ ท่าช้าง ผอ.สจป.ที่ 3 สาขาแพร่ นายชาตรี สัทธรรมนุวงศ์ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า นายพิษณุพันธ์ วงศ์ขันธ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 3 สาขาแพร่ นายนันทพงษ์ คำปิน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชำนาญงาน ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ, เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด ศปทส.ภาค 5, เจ้าหน้าที่ตำรวจร้อย ตชด 323 พะเยา, เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.แพร่ และฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่ พร้อมตำรวจ สภ.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.14(แม่แปง) เข้าตรวจสอบพื้นที่สวนส้ม หมู่ 1 บ้านแม่แปง ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ หลังได้รับแจ้งว่ามีการตัดไม้สักในพื้นที่ เตรียมทำการขนย้ายออกเพื่อจำหน่าย
จึงได้สนธิกำลังร่วมกันเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบมีกองไม้สักท่อนจำนวนมาก วางกองอยู่บริเวณ 2 ข้างทางบริเวณสวนส้ม ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม้ดังกล่าวไม่มีรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีประทับ หรือผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้างมาก่อน ลักษณะไม้ดิบ สด จุดแรกพบไม้จำนวน 111 ท่อน เป็นไม้สักท่อนอายุ 15-20 ปี ถูกตัดทอนโดยเฉลี่ยความยาว 4-6 เมตร ห่างกันไม่ไกลประมาณ 300 เมตร พบไม้สักจำนวน 286 ท่อน ลักษณะเดียวกันวางเรียงอยู่ข้างทางติดสวนส้ม ตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงพบตอไม้ที่ถูกตัดออกกระจัดกระจาย อยู่ไม่ไกลจากจุดที่พบไม้ เป็นสวนสัก ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยมฝั่งตะวันออก จึงประสานนายสุวรรณ ทาคำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านแม่แปง เพื่อสอบถาม เบื้องต้น นายสุวรรณฯ ให้รายละเอียดว่า สวนส้มดังกล่าวเป็นของนางสายพิณ และนายสอด พรมจันทร์ ซึ่งเป็นชาวบ้านในหมู่บ้าน ส่วนที่ดินนั้นไม่ได้มีเอกสารสิทธิ์แต่อย่างใด ส่วนไม้ที่เห็นนั้นไม่ทราบว่าตัดไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีการตัดไม้ในพื้นที่
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบไม้ทั้งหมด พบว่ามีการนำ สเปย์สีแดงมาพ่น และประทับหมายเลขเรียง ปีย่อ ที่หน้าตัดไม้ เพื่อเป็นการอำพรางเจ้าหน้าที่เตรียมสวมสิทธิ์ไม้ทั้งหมดว่าเป็นไม้ที่มาจากพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ ตามมาตรา 7 หรือ เป็นการทำไม้ตาม พรบ.สวนป่า พ.ศ.2535 เพื่อเตรียมขนย้ายออกนอกพื้นที่ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามและตรวจสอบขบวนการค้าไม้รายนี้มาโดยตลอดแต่ก็ยังไม่สามารถสาวถึงตัวการใหญ่ได้ จึงได้นำไม้ทั้งหมดส่งมอบให้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.14 (แม่แปง) ก่อนทำบันทึกส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.นาพูน เพื่อติดตามตัวเจ้าของที่ มาทำการสอบสวนและหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป