จากกรณีที่สำนักก่อสร้างทางที่1 กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ได้มีโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข4 สาย อ.ตะกั่วป่า – บ.บางสัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ด้วยระยะทาง 7.4 กิโลเมตร ในมูลค่า 290 ล้านบาท ซึ่งพบว่าทรมวิศวกรที่ทำการออกแบบ ไม่ได้คำนึงถึงจุดที่น้ำท่วมขังบนผิวถนนอยู่เป็นประจำ ไม่ได้มีการออกแบบระบบระบายน้ำที่เพียงพอ และสอดคล้องกับการดำรงค์ชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมากที่อาศัยอยู่ตลอด2ข้างทาง ทำให้ประชาชนต้องซื้อท่อระบายน้ำมาวางเพื่อเข้าออกบ้านเรือน ส่งผลให้ระดับการไหลของน้ำไม่ดีเท่าที่ควร
ปริมาณน้ำจำนวนมากที่ไหลสะสมมาจากด้านเหนือ จึงไม่สามารถไหลลงสู่คลองธรรมชาติได้ทัน จนเกิดรอการระบายบนผิวถนนเพชรเกษม รถเล็กไม่สามารถสรรจรไปมาได้อย่างสะดวกและปลอดภัย นอกจากนั้นน้ำบางส่วนยังไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนจนเกิดความเสียหาย
ด้าน นายจิรศักดิ์ บัวทอง ชาวตำบลบางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างถนนจนเกิดน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนเสียหาย กล่าวว่า ในอดีตถนนช่วงดังกล่าวเป็นที่ลุ่มต่ำเกิดน้ำท่วมผิวจราจรบ่อยครั้งเมื่อเกิดฝนตก แต่กลับพบว่าหลังจากมีการก่อสร้างถนน น้ำได้ท่วมขังบนผิวจราจรมากกว่าเดิม และไหลเข้าสู้บ้านเรือนหนังขึ้นกว่าเก่า จึงต้องการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบหาแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยการออกแบบและวางท่อระบายน้ำข้างทางให้มีขนาดที่เพียงพอต่อการรับน้ำ และมีความลาดเอียงเพียงพอต่อการไหลของน้ำไปยังแม่น้ำโดยเร็ว
ซึ่งก่อนเกิดเหตุการณ์ฝนตก ตนเองได้พยายามเสนอความคิดเห็น แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบก็ไม่ได้รับฟัง จึงอยากให้มีหน่วยงานเข้ามาช่วยดำเนินการหาทางแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนโดยด่วน