‘บิ๊กโจ๊ก’ ลงพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวพังงา ตรวจความพร้อมส่วนต่อขยายรับท่องเที่ยวต่อจากภูเก็ตแซนด์บ๊อก มั่นใจปลายปีนี้ นทท.เข้ามามากขึ้น

วันที่ 27 ส.ค.64 นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ร่วมให้การต้อนรับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ 9) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ในโอกาสลงพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา

เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่ส่วนขยายจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ พร้อมรับฟังสรุปการจัดการของภาคเอกชนในด้านการดูแลนักท่องเที่ยว และติดตามการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจด้านการจัดการความปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยว ตามที่ ศบค.ได้มีมติให้เดินหน้าเปิดโครงการพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเชื่อมต่อจังหวัดนำร่องอื่น “Phuket Sandbox 7+7” รูปแบบ Seal Route โดยจังหวัดพังงานำร่องก่อนที่เขาหลัก อ.ตะกั่วป่า และเกาะยาวใหญ่ เกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว โดยทั้ง 2 แห่งนี้อยู่ในส่วนขยายเขตพื้นที่นำร่องจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Extension Sandbox) ให้เพิ่มมากขึ้น จากนั้นเวลาต่อมาได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ศูนย์การแพทย์เขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ 9) กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ตนดูแลขับเคลื่อนด้านความปลอดภัยในพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ฝั่งอันดามันทั้งหมด นับเป็นการสนับสนุนการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเริ่มเข้ามาในช่วงปลายปีนี้ จากการที่รัฐบาลเห็นชอบให้เปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้กำชับทั้งตำรวจภูธร ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้บูรณาการร่วมกันดูแลทุกแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมดอย่างเข้มงวดและกำหนดหน่วยงานที่เข้าไปดูแลจะรับผิดชอบพื้นที่นั้นๆเพื่อที่จะได้ประสานมายังตำรวจหากเกิดเหตุ อีกทั้งเข้าไปจัดระเบียบรถโดยสาร เรือโดยสาร ไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ หากเป็นพื้นที่ทางทะเลให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการวางทุ่นแบ่งเขตที่สามารถลงเล่นน้ำ และเขตที่เรือวิ่ง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุกับนักท่องเที่ยว ซึ่งก็มั่นใจว่าปลายปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแน่นอนโดยเฉพาะชาวรัสเซียแต่อาจไม่มากเหมือนเช่นที่ผ่านมาเนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 แต่ก็จะสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศได้ในระดับหนึ่ง

จังหวัดพังงาขณะนี้ได้ฉีดวัคซีนให้ประชาชน 51.06% ของประชากรทั้งจังหวัด อัตราการฉีดในพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่อง อ.เกาะยาว 70.33% อ.ตะกั่วป่า 59.83 % สำหรับการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการใน จ.พังงาที่ผ่านมา พนักงานในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการได้รับการฉีดวัคซีนแล้วมากกว่าร้อยละ 70 และได้ยกระดับมาตรฐานเป็น SHA Plush ในสถานประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร บริการขนส่งยานพาหนะ และอื่นๆ สร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดพังงาว่าจะมีความปลอดภัยด้านมาตรฐานการบริการ ความสะอาด สุขอนามัย และมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน