เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ที่ศาลากลางจังหวัดพังงา นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาได้มอบหมายให้นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา แถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า ตามที่ทางจังหวัดพังงาและภาคเอกชนได้มีแผนจะมีการเปิดรับการท่องเที่ยว “พังงาพร้อม” ในพื้นที่นำร่อง วันที่ 1 สิงหาคมนี้
ทางจังหวัดพังงาจำเป็นที่จะต้องเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 15 สิงหาคม ด้วยสาเหตุประกอบด้วย ประเด็นที่1 ศบค. ใหญ่ ยังไม่ได้มีมติให้มีการเปิดพังงาพร้อมในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ประเด็นที่ 2 การเชื่อมโยงระบบ Application ทั้งชบาและหมอชนะ ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการยังไม่เรียบร้อย และประเด็นที่ 3 สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ของจังหวัดพังงายังมีคลัสเตอร์ใหม่ๆเกิดขึ้น รวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้พื้นที่ให้ประชาชนเข้าใจยังไม่ครอบคลุม ในวันนี้ทางจังหวัดได้ประชุมร่วมกับภาคประชาชน ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีมติเห็นตรงกันว่าจะเสนอ ศบค.ใหญ่ เลื่อนเป็นวันที่15สิงหาคม ในเบื้องต้นทางจังหวัดได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกลุ่มที่มีส่วนได้ส่วนเสียเจ้าของโรงแรมมาหาหรือว่าการที่เราเลื่อนไปจากวันที่ 1 เป็นวันที่ 15 ซึ่งก็มีผลกระทบแน่ๆ แต่เพื่อความเหมาะสมของสถานการณ์ในปัจจุบันและที่สำคัญคือพ่อแม่พี่น้องชาวพังงาตอนนี้ทุกคนจำเป็นที่จะต้องได้รับข่าวสารที่ชัดเจนก่อน จึงจำเป็นที่จะต้องเลื่อนออกไป ภาคธุรกิจเอกชนได้รับผลกระทบแต่อยู่ในขอบเขตที่สามารถรับได้
สำหรับการเปิดการท่องเที่ยวนำร่อง พังงาพร้อม นั้น นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทย 7 วันแรกเขาจะอยู่ที่ภูเก็ตเมื่อ มาถึงก็จะมีการตรวจหาเชื้อครั้งแรกหลังจากนั้นมาเขาอยู่ถึงวันที่ 6 จะตรวจหาเชื้อครั้งที่2 เมื่อไม่มีเชื้อเขาถึงมีสิทธิ์ที่เดินทางมาที่จังหวัดพังงาได้ ดังนั้นเมื่อทางราชการบวกกับคุณหมอพิจารณาเงื่อนไขต่างๆเหล่านี้แล้ว ทางจังหวัดพังงาจึงไม่อยากจะปล่อยโอกาสที่เป็นโอกาสทองเพื่อให้กระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดพังงาเรา เนื่องจากยอดจองที่ทางเราคาดการณ์เดือนสิงหาคมเราจะมียอดนักท่องเที่ยวประมาณ 20,000 คนจะมียอดกระตุ้นเศรษฐกิจถึง 2,600 ล้าน แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญเท่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนและองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องรายละเอียด จึงจำเป็นต้องเลื่อนการเปิดการท่องเที่ยวนำร่อง พังงาพร้อมไปเป็น 15 สิงหาคม
สำหรับความพร้อมของพื้นที่เปิดการท่องเที่ยวนำร่องนั้น โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอเกาะยาว กลุ่มที่เป็นกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มโรคเรื้อรัง 7 โรคและกลุ่มผู้สูงอายุได้รับการฉีดวัคซีนไป 90% และภาพรวมของพื้นที่เกาะยาวก็ฉีดเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์แล้วในส่วนของการรับวัคซีนเราไม่กังวลแต่เรากังวลในเรื่องสถานการณ์ที่เพิ่มขึ้นในบริเวณโดยรอบ แล้วก็ฟังความรู้สึกของพ่อแม่พี่น้องประชาชน ทางจังหวัดจะพยายามสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่าโควิด-19 คงจะไม่ไปจากเราง่ายๆดังนั้นเรามีทางที่จะอยู่ร่วมกับเขาเราก็ต้องพิจารณาให้เกิดความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจและสุขภาพของเราเป็นพี่น้องเป็นสิ่งสำคัญถ้าเราห่วงสุขภาพจนละเลยเศรษฐกิจในวันข้างหน้าเราอาจจะมีผลกระทบที่ไม่พึงปรารถนาได้เช่นกัน