เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2564 ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวาทิต ปัญญาคม นอภ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง มอบหมายให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครและจิตอาสาในพื้นที่ทุกหมู่บ้าน ชุมชน ออกตรวจสอบเบาะแสและพื้นที่เสี่ยงการเกิดแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ตามข้อสั่งการของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) และสั่งการของคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัด ลำปาง โดยเข้าตรวจบ่อนไก่ในพื้นที่ ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง เนื่องจากมีการร้องเรียน แจ้งเบาะแส ผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองลำปางว่ามีการจัดตั้งบ่อนชนไก่ ซึ่งเกรงว่าจะกลายเป็นแหล่งเกิดการแพร่ระบาดโรคโควิด -19 และจากการตรวจสอบพบว่าบ่อนดังกล่าวปิดดำเนินการและไม่พบการทำผิด เจ้าหน้าที่ได้แจ้งกำชับเจ้าของบ่อนไก่รับทราบความผิดกรณีละเมิดกฎหมาย หากมีการลักลอบชนไก่
นายวาทิต กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม จ.ลำปางใช้มาตรการควบคุมโรคที่มุ่งเน้นเฉพาะเป้าหมายกลุ่มเสี่ยง เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะมาตรการการควบคุมการเดินทางของบุคคลที่เข้ามายังพื้นที่ จ.ลำปางที่เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนดำเนินการตามมาตรการที่จังหวัดกำหนด ได้แก่ ลงทะเบียนเข้าพื้นที่จังหวัดลำปาง โดยสแกน QR code “ลำปางชนะ” และรายงานตัวต่อ อสม.ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในพื้นที่ของทุกหมู่บ้าน ชุมชน เพื่อประเมินความเสี่ยง
“โดยหากเป็นผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดงเข้ม หรือ สีแดง ต้องกักตัวเอง (Home Quaratine) อย่างเคร่งครัด 14 วัน ยกเว้น มีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ผลเป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมง หรือมีหลักฐานการฉีดวัคซีน Sinovac 2 เข็ม หรือ AstraZeneca อย่างน้อย 1 เข็ม มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 สัปดาห์ และหากเดินทางมาจากพื้นที่สีส้ม หรือ สีเหลือง ให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง (Self Monitoring) เป็นเวลา 14 วัน หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที.”นายวาทิต กล่าว