กกต.เชียงใหม่ เผยมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง จำนวนกว่า 90 เรื่อง ยังตรวจสอบไม่เสร็จ เตือนผู้ที่จะทำการร้องเรียนต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน ระบุมีผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ กกต.เชียงใหม่ ตกเบ็ดเรียกเคลียร์เรื่องร้องเรียนทาง กกต.จังหวัดหลายกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างขอให้หยุดพฤติกรรมมิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี ด้ายนายจุฬา สังข์เรือง อดีตนายกฯเทศบาลแม่ริมรุดให้ปากคำเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กกต.เชียงใหม่ หลังพบมีผู้ร้องเรียนถวายเครื่องสังฆทานให้พระสงฆ์ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เจ้าตัวระบุถูกกลั่นแกล้ง กำลังรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการทางกฏหมาย
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.30 น.ที่สำนักงานการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ ( กกต.เชียงใหม่ ) นายจุฬา สังข์เรือง อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแม่ริม และผู้สมัครชิงนายกเทศบาลตำบลแม่ริมจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ผู้ที่ถูกร้องเรียนรวม 6 คน และพยานอีก 3 คน เดินทางไปยัง กกต.เชียงใหม่ เพื่อชี้แจง กรณีถูกร้องเรียนเรื่องถวายเครื่องสังฆทานให้พระภิกษุสงฆ์ ณ วัดแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลตำบลแม่ริม
นายจุฬา กล่าวว่า การที่ตนเองเดินทางมา กกต.เชียงใหมครั้งนี้เพื่อชี้แจงเรื่องราวที่ถูกร้องเรียน ทั้งนี้เนื่องจากได้ทราบข่าวว่า มีกลุ่มบุคคลได้ร้องเรียนมายัง กกต.เชียงใหม่ ว่าตนเองได้ถวายสิ่งจอง หรือเครื่องสังฆทานให้กับพระภิกษุสงฆ์วัดแห่งหนึ่งในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้งนายกฯและสมาชิกฯเทศบาลตำบลแม่ริม ซึ่งตนเองพอทราบข่าวก็รู้สึกตกใจและเกิดอาการมึนงง กับเรื่องที่ถูกร้องเรียนเพราะตนนับถือศาสนาอิสลาม แล้วถูกกล่าวหาว่าไปถวายเครื่องสังฆทานหรือสิ่งของให้พระสงฆ์ ณ วัดแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลตำบลแม่ริมได้อย่างไร ซึ่งตนเองมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองของฝ่ายตรงข้าม จึงเดินทางเข้ามาชี้แจงข้อกล่าวหาที่กกต.จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมได้นำบุคคลที่ถูกร้องเรียนและพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ตามที่ถูกร้องเรียนมาชี้แจงต่อทางกกต.จังหวัดเชียงใหม่ให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงวาเป็นอย่างไร
นายจุฬา กล่าวอีกว่า จากการติดตามข่าวที่มการโพสต์และแชร์ในสื่อโซเซียล และมีผู้นำมาร้องเรียน กกต.เชียงใหม่ ดังกล่าว เป็นช่วงเวลาที่ทางกลุ่มคณะของตนเอง พร้อมสมาชิกฯได้เดินออกหาเสียงและได้แวะเข้าไปกราบขอพรกับพระสงฆ์ ซึ่งตนเองได้นั่งอยู่ห่างๆ ประกอบกับได้มีคนได้เดินทางมาทำบุญวันเกิดและถวายสิ่งของหรือเครื่องสังฆทานให้พระสงฆ์ ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาที่ทางคณะของตนเองไปกราบขอพรพอดี จึงมีคนนำรูปภาพไปเผยแพร่ทางสื่อโซเซียล ซึ่งตนเองได้ตรวจสอบอย่างละเอียด แล้วขอยืนยนว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และสิงของหรือเครื่องสังฆทานก็เป็นของบุคคลอื่น หรือเป็นของจ้าของวันเกิดที่ไม่เกี่ยวกับตนเองเลย วันนี้ตนเองจึงได้นำหลักฐาน และพยานแวดล้อม ทั้งตัวบุคคล ตลอดจนพระสงฆ์ เดินทางมาชี้แจงต่อกกต.เชียงใหม่ อีกอย่างเป็นไปไม่ได้ เนื่องจาก ตนเองนับถือศาสนาอิสลาม แต่ยังมีคนร้อวเรียนกลั่นแกล้งน้องเรียนต่อ กกต.เชียงใหม่ เพื่อจะทำให้ทาง กกต.เชียงใหม่ มีคำสั่งถอดถอนสมาชิกในกลุ่มของตนเองไป 3 คน ซึ่งตนเองมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง พร้อมทั้งจะได้ปรึกษาทางนิติกรเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ขณะเดียวกันทางด้านนายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง กกต.เชียงใหม่ รับเรื่องร้องเรียนไว้ดำเนินการตรวจสอบจำนวนมากกกว่า 90 เรื่อง มีการดำเนินการตรวจสอบ สอบสวนไปแล้ว 60 กว่าเรื่องที่เหลืออยู่ในกระบวนการตรวจสอบหลักฐาน พยานสิ่งแวดล้อม โดยได้มีการการประกาศรับรองการเลือกตั้ง ของเทศบาลที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนไปแล้วรอบแรก ไปแล้วจำนวนหนึ่ง ส่วนในรอบที่ 2 ไม่น่าจะเกินวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 นี้อย่างแน่นอน โดยทาง กกต.เชียงใหม่ ได้เร่งดำเนินการสืบสวน สอบสวนตรวจสอบอย่างรัดกุมและฝากแจ้งเตือนไปยังผู้ที่จะทำการร้องเรียนจะต้องรวบรวมหลักฐานพยานให้ชัดเจนก่อนนำมายื่นร้องเพราะจะทำให้เสียเวลา อีกอย่างทาง กกต.เชยงใหม่ จะต้องดำเนนการทุกอย่างให้ละเอียดรัดกุมเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปด้วความบริสุทธิ์ยุติธรรม โดยส่วนใหญผู้ที่ร้องเรียนจะมีทั้งร้องเรียนมายัง กกต.เชียงใหม่ และส่วนกลางที่กรุงเทพฯโดยทางกกต.กลาง ทำให้ต้องมีการตรวจสอบร่วมกันจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ จึงจะสามารถประกาศรับรองได้ ทั้งนี้ตามกรอบระยะเวลา 50 วันตามกฎหมายกำหนด
ในส่วนของกระบวนการการสืบสวนสอบสวนเมื่อมีเรื่องร้องเรียนเข้ามานั้นเราก็จะให้ผู้ร้องและผู้ถูกร้องนำพยานหลักฐานเข้ามาชี้แจงแล้วเราก็จะพิจารณาว่าหลักฐานและข้อมูลเหล่านั้น
มีพยานหลักฐานเพียงใดในการสั่งรับเรื่องตรวจสอบก็ว่าไปตามกระบวนการ การสืบสวนสอบสวน โดยระยะเวลาในการทำสำนวนสอบสวนระยะในการดำเนินการไม่เกิน 50 วัน
สืบเนื่องด้วยสภาวะที่เราไม่สามารถสอบพยานได้ เนื่องด้วยในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดหรือว่ามีพยานหลักฐานเป็นจำนวนมาก เราก็สามารถที่จะขยายระยะเวลาไปที่ทางคณะกรรมการเลือกตั้งเซ็นอนุมัติได้อีก 2 ครั้งครั้งละ 15 วัน ร่วมแล้วไม่เกิน 80 วัน นับจากวันที่รับเรื่องแต่สำนวนคดีส่วนใหญ่แล้วเราจะทำเสร็จสิ้นภายใน 50 วัน กรณีที่ทำสำนวนเสร็จก่อนที่กกต.จะประกาศผลการเลือกตั้ง แล้วทางกกต.พิจารณาก็จะทำให้เป็นที่สุด หลังกกต.ประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว คำร้องที่จะลงโทษผู้สมัครเลือกตั้งที่กระทำความผิดจะต้องยื่นไปยังศาลอุทธรณ์ซึ่งจะมีการแบ่งกันระหว่างก่อนประกาศผลและหลังประกาศผล
ในเรื่องของผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือประชาชนที่เป็นผู้ช่วยในการหาเสียงต่างๆที่ถูกร้องคัดค้านก็ไม่ต้องตกใจเพราะคำร้องเป็นการกล่าวหาอยู่ฝ่ายเดียวผู้ร้องมีหน้าที่ที่ต้องนำพยานหลักฐานมาพิสูจน์ในส่วนของที่ท่านที่ถูกร้อง ถ้าทำไม่ได้ทำกระทำความผิดก็ไม่ต้องกลัวเราจะให้ความเป็นธรรมท่านก็นำพยานหลักฐานมาแสดงต่อพนักงานสืบสวนสอบสวนว่าไม่กระทำความผิด ถ้าเกิดท่านไม่ได้ทำความผิดเราก็จะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ และอย่าได้ไปหลงเชื่อกลุ่มคนหรือบุคคลใดๆที่ กล่าวอ้างว่าสามารถจะวิ่งเต้น หรือว่า อ้างเป็นพนักงานกกต.หรือว่ารู้จักผู้ใหญ่ในกกต.ที่จะวิ่งเต้นคดีเลือกตั้ง ไม่มีทางเป็นไปได้ อย่าได้หลงเชื่อ ซึ่งก็เป็นข่าวไปแล้วว่าทางกกต.จังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้วางแผนร่วมจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพ เหล่านี้ได้ มาแล้ว 1 กลุ่มซึ่งขณะนี้ก็ยังมีอยู่ ประเภทที่มาเรียกรับ เพื่อที่จะแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีเลือกตั้งก็ยังมีอยู่ และขอฝาก ไปยังผู้สมัครรับเลือกตั้งว่า ถ้าหากท่านไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ก็ขอความอนุเคราะห์อย่าได้มาร้องเลยเพราะจะทำให้ผู้ที่ไม่ได้กระทำความผิด เขาก็จะต้องเสียเวลา มาให้การต่อพนักงานสืบสวนสอบสวน ถ้าท่านมีพยานหลักฐานชัดเจน ก็ค่อยมาร้องเรียนหรือว่าสามารถโทรศัพท์มาปรึกษาได้ว่า ท่านมีหลักฐานพยานประมาณนี้จะสามารถร้องเรียนได้หรือไม่ เพราะบางครั้งถ้าเขาไม่ได้ทำกระทำความผิดหรือเราได้ยินมา หรือได้ยินเขาเล่ามา หรือไปแคปหน้าจอตามสื่อโซเชียลออนไลน์ แล้วนำเรื่องมาร้องเรียน มันก็ดูจะไม่เป็นธรรมต่อผู้ถูกร้อง ก็ขอท่านให้ได้พิจารณาเรื่องนี้ให้ดี หรือว่าท่านสามารถโทรศัพท์มาสอบถามได้ที่สำนักงานกกต.เชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053 112 347 – 8 จะมีเจ้าหน้าที่กกต.เชียงใหม่ ที่คอยให้ความแนะนำและคอยตอบคำถามที่ท่านสงสัยให้ได้รับทราบต่อไป.
นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่