อัยการจังหวัดเชียงใหม่สั่งไม่ฟ้องม่อนแจ่ม..ผู้ว่าฯ เรียกประชุม ตร.ภาค5 และป่าไม้ด่วน
แหล่งข่าวจังหวัดเชียงใหม่รายงานว่าเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พร้อมผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่และพนักงานสอบสวนคดีม่อนแจ่ม ได้ร่วมประชุมสรุปปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาเนื่องจากพนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดี ม่อนแจ่ม 19 คดีจากที่มีสำนวนอยู่ในพนักงานอัยการ 28 คดี
แหล่งข่าวรายงานว่า พนักงานอัยการได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าผู้ประกอบการรีสอร์ทขาดเจตนาในการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ และมีคำสั่ง คสช. ที่ 6/2562 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการผ่อนผันให้ผู้ที่ประกอบกิจการโรงแรมที่ไม่ได้รับการอนุญาตสามารถยื่นขออนุญาตภายหลังได้ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้สั่งการในที่ประชุมให้ป่าไม้ประสานข้อมูลเอกสารพยานหลักฐานกับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบอย่างใกล้ชิดเพื่อทำความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ให้อัยการสูงสุดชี้ขาด
แหล่งข่าวสาย ตร.ภาค5 รายงานว่าผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) กล่าวในที่ประชุมว่าการอ้างเหตุความไม่รู้ข้อกฏหมาย ข้อเท็จจริงต่างๆของผู้ครอบครองพื้นที่ เพื่อให้พ้นจากข้อกล่าวหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติของผู้ประกอบการรีสอร์ทม่อนแจ่มนั้น ไม่สามารถรับฟังได้ เนื่องจาก รีสอร์ทที่ดำเนินคดีทั้งหมดมีความผิดชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำภาพถ่ายทางอากาศปี 2545 เป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ มาเปรียบกับพื้นที่ที่มีการใช้ประโยชน์จริงในปัจจุบันพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าอย่างชัดเจน และหลายรายมีการซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดินจากราษฏรชาวไทยภูเขาในไปสู่นายทุนต่างชาติ และเมื่อทำการตรวจสอบในเชิงลึกพบว่ามีลงทุนทำกิจการโดยอาศัยนอมีนีและมีการขยายพื้นที่บุกรุกเพื่มเติมจากพื้นที่เดิม ในส่วนคำสั่ง คสช ที่ 6/2562 ว่าด้วยเรื่องการผ่อนผันให้ผู้ประกอบการรีสอร์ท โรงแรมที่ดำเนินการมิชอบด้วยกฏหมาย หากดูในรายละเอียดจะเห็นว่าวัตถุประสงค์ของคำสั่งฯดังกล่าว มีการระบุไว้ชัดเจนว่าให้บังคับใช้ในพื้นที่ที่เป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ตามกฎหมายเท่านั้น เช่น ข้อ 2 (2) ระบุว่า บังคับใช้กับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ฝ่าฝืนใช้ประโยชน์ที่ดินผิดไปจากที่ได้กำหนดไว้ในผังเมืองรวมหรือปฏิบัติการใดๆ ซึ่งขัดกับข้อกำหนดของผังเมืองรวมตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ. การผังเมือง พ.ศ. 2518 ซึ่งพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติไม่อยู่ในพื้นที่ผังเมืองจึงไม่ใช่เหตุที่จะนำคำสั่ง คสช. ที่ 6/2562 มาบังคับใช้ในกรณีนี้ได้
สำหรับม่อนแจ่ม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ในโครงการหลวงหนองหอยและอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบผู้ประกอบการหลายรายพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายจึงได้ทำการตรวจยึดพื้นที่และดำเนินคดี ในรายที่พบว่าเป็นของชาวบ้านราษฏรในพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่และกรมป่าไม้ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งตามคำวินิจฉัยของประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนแม่บทการใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างเหมาะสม เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้าไปท่องเที่ยวและใช้บริการที่พักแต่พื้นที่ม่อนแจ่มเป็นพื้นที่ที่อ่อนไหวต่อระบบนิเวศ มีความลาดชันสูงเสี่ยงต่อการพังทลายของหน้าดิน อีกทั้งมีการก่อสร้างอาคารที่พักนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก หลายแห่งเป็นอาคารขนาดใหญ่และตั้งอยู่บนพื้นที่ลาดชันอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้
จากเหตุการณ์ที่พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลพื้นที่ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า แล้วจะแก้ปัญหาม่อนแจ่มที่ผิดกฏหมายกันอย่างไร